Friday, July 20, 2012

ดูละครปิ่นอนงค์ ตอนที่ 13 Pin Anong EP 13

>> ปิ่นอนงค์ Pin Anong 偷心俏冤家 EP013

ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 13 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

อุ่นเรือนวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงเข้าไปในสวนร้าง ต้นไม้รกครึ้ม หลบดู เห็นครองสุขกับลูกน้องเดินหา สมหมายกับลูกน้องอีกคนแยกไปคนละทาง       
       ครองสุขเดินเข้ามา อุ่นเรือนผวา ครองสุขเขม้นมองตรงมาทางที่อุ่นเรือนซ่อนอยู่
       อุ่นเรือนกลัวรีบลนลานหนีต่อ ครองสุขเห็นต้นไม้สั่นไหว นึกรู้ทันที รีบตามไปทางนั้น
       
       อุ่นเรือนรวบรวมเรี่ยวแรงวิ่งมา แต่สะดุดล้มตรงริมสระบัว รีบหันกลับไปมองว่าครองสุขตามมาหรือเปล่า
       เห็นครองสุขเดินตรงมาหา อุ่นเรือนตกใจกลัว “คุณนาย!”


       ครองสุขตีหน้าเศร้าเดินเข้าหาอุ่นเรือน “ทำไมอุ่นต้องหนีฉันด้วย อุ่นไม่รักฉันแล้วเหรอ”
       อุ่นเรือนถดตัวหนี “คุณนายโกหกอุ่น คุณนายไม่ได้ติดต่อปิ่น คุณนายต้องการให้อุ่นตาย”
       ครองสุขยิ้มเหี้ยมเดินเข้าหาช้าๆ “ก็แกอยากตอบแทนบุญคุณชั้นไม่ใช่เหรอนังอุ่น แกช่วยตายไปที ความลับที่ชั้นสั่งแกวางยาไอ้ใหญ่จะได้ตายไปกับแกด้วย”
       อุ่นเรือนถลาเข้าไปจับมือครองสุข “คุณนาย คุณนายไม่ไว้ใจอุ่นหรือคะ”
       เสียงครองสุขกร้าวแข็ง “แกทรยศชั้น นังอุ่น ชั้นรู้แกกับไอ้ใหญ่เป็นพวกเดียวกัน”
       อุ่นเรือนผวาตัวกอดขาครองสุขแน่น “ไม่จริงนะคะ อุ่นยังจงรักภักดีกับคุณนายตลอดเวลา อย่าทำอะไรอุ่นเลยนะคะ คุณหนูของอุ่น”
       ครองสุขตวาด “ตอแหล ชั้นเห็นกับตา ไอ้ใหญ่มันเข็นรถให้แก ดูแลแก แม้แต่ค่าห้องค่ายาค่ารักษาแก มันก็เป็นคนออกเงินให้ทั้งหมด”
       “อุ่นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
       ครองสุขจิกหัวอุ่นเรือน พร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ “แกทำให้ฉันผิดหวังมากนังอุ่น”
ส่วนใหญ่ยืนมองต้นปีบทอดอาลัยถึงปิ่นอนงค์
        “ฉันจะไม่ให้มีอะไรที่เกี่ยวกับเธอ หลงเหลือให้ตำตา”
        ใหญ่ก้มลงหยิบขวานเงื้อขึ้น แต่ยังไม่ทันจามลงไป มีมีดพุ่งมาปักคาต้นปีบ
        ใหญ่ชะงักหันขวับไปมองด้านหลัง เห็นจอมในระยะไกลมาก ยืนท้าทายอยู่ข้างรถกระบะ
        “ไอ้จอม!”
        ใหญ่แค้นวิ่งไปหาเร็วรี่ จอมขึ้นรถขับหนี
        ใหญ่วิ่งตามรถ สับเท้าเร็วมาก จอมหันไปมองยิ้มสะใจ ตะโกนเย้ยใหญ่
        “หน้าอย่างแกนะเหรอจะจับฉันได้ ไอ้อ่อนเอ๊ย”
        ใหญ่วิ่งตามไม่ทัน คนงานขับรถขนฟางแซงขึ้นมาเทียบข้างใหญ่
        “คุณใหญ่จะวิ่งไปไหนครับ”
        “จอดรถ”
        คนงานจอดงงๆ ใหญ่วิ่งด้านคนขับ “ลงมา! เร็ว!”
        คนงานรีบลงจากรถ ใหญ่ขึ้นไปขับ ไล่จี้ตามรถจอม
        จอมยังขับต่อไป “ใจเย็น ฉันรอให้แกตามทันอยู่แล้ว”
        เวลาเดียวกันครองสุขจิกผมอุ่นเรือนลากมาที่ริมสระบัว อุ่นเรือนคลานตามแรงครองสุข ไม่มีแรงขัดขืน
       อุ่นเรือนมองไปที่สระ รู้ชะตากรรม รีบอ้อนวอน
        “คุณหนูๆ เห็นแก่ความจงรักภักดีของอุ่นบ้างเถอะนะคะ อุ่นรับใช้คุณหนูมาตั้งแต่คุณหนูยังแบเบาะ”
        “แกทำดีกับชั้นเพราะไม่มีที่ไปต่างหาก แกไม่ได้จงรักภักดีอะไรกับชั้นนักหนาหรอก” ครองสุขเยาะ
        อุ่นเรือนร้องไห้ “ไม่จริงนะคะ อุ่นช่วยคุณท่านเลี้ยงคุณหนูมา อุ่นรักคุณหนูด้วยหัวใจ ด้วยชีวิตของอุ่นจริงๆ”
        ครองสุขหัวเราะในลำคอไปมา “เหมือนกันหมด ไอ้ไพศาลมันก็เคยพูดกับชั้นแบบนี้ สุดท้ายมันก็แก้พินัยกรรมยกสมบัติให้ไอ้ใหญ่ ไอ้ผาก็เหมือนกัน มันอยู่กินกับฉันก็เพราะต้องการสูบเงินจากฉัน มันสองคนสมควรตายทั้งคู่ สมน้ำหน้ามัน”
        “คุณหนู คุณหนูทำอะไรพวกเค้า”
        ครองสุขเล่าราวกะรายงานดินฟ้าอากาศ ไม่รู้สึกผิดแม้สักเพียงน้อย
        “ฉันก็แค่ขับรถชนไอ้ผาเพื่อโยนความผิดให้ไอ้ใหญ่ ส่วนไอ้แก่ไพศาล ฉันก็วางยาพิษมันไงเล่า”
        อุ่นเรือนช็อก “คุณนายหลอกอุ่น”
        ครองสุขพูดเสียงสูง “เปล๊า เพราะแกพร้อมจะเชื่อฉันเองนังอุ่น”
        ครองสุขตาลุกวาว จับหัวอุ่นเรือนกดน้ำ อุ่นเรือนพยายามดิ้นโงหัวขึ้นมางับอากาศ ครองสุขออกแรงกดหัวลงไปอีก แช่ไว้ สีหน้า ครองสุขถมึงทึง บิดเบี้ยวน่ากลัวมาก ไม่นานนักอุ่นเรือนก็นิ่งไป ครองสุขปล่อยมือคิดว่าตายแล้ว
        ครองสุขสีหน้าสลดนิดหน่อย พอตั้งสติได้รีบกดโทรศัพท์หาเสี่ยตง
        “ทางนี้เรียบร้อย โทร.หานังปิ่นมันได้เลย”

 ปิ่นอนงค์เก็บหม้อแกงบนรถเข็น มีโทรศัพท์เข้ามา ปิ่นอนงค์รีบรับสาย
       “ฮัลโหล”
       เสียงผู้ชายลอดมาจากในสาย “แม่คุณชื่ออุ่นเรือนใช่มั้ย”
       ปิ่นอนงค์ตื่นเต้น “ใช่ค่ะ คุณเจอแม่ฉันเหรอคะ”
       “แม่คุณอยู่ที่...”
       ปิ่นอนงค์ตั้งใจฟังอยู่ จินตนารีบร้อนเข้ามา “ปิ่น เราไปตามหาจอมทั่วแล้วนะ คนที่ปศุสัตว์ก็บอกไม่เห็นมันไม่โผล่ไปทำงานเลย”
       “เดี๋ยวสิคะแล้วคุณชื่ออะไรคะ” สายตัดไปแล้ว “ฮัลโหลๆ”
       จินตนามองอย่างงงๆ ปิ่นอนงค์รีบบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงลิงโลด “มีคนโทร.มาบอกว่าเจอแม่เราแล้ว”
       จินตนาดีใจมาก “จริงเหรอ ป้าอุ่นอยู่ที่ไหน”
       
       จอมวิ่งเข้ามาในสวนรกครึ้ม แล้ววิ่งออกจากสวนไปอีกทาง ใหญ่ตามเข้ามามองหา
       “ไอ้จอม ออกมาสู้กันตัวต่อตัวแบบลูกผู้ชายดีกว่า ถ้าฉันแพ้แกแกก็เอาชีวิตฉันไปเลย แต่ถ้าแกแพ้ ถือว่าเราเลิกแล้วต่อกัน กลับไปดูแลนายหวินให้ดี”
       ไม่มีเสียงจอมตอบกลับ ได้ยินแต่เสียงขอความช่วยเหลือเป็นน้ำเสียงอ่อนล้าโรยแรง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
       ไวเท่าความคิดใหญ่วิ่งไปทางเสียงตรงสระบัว เห็นร่างนอนคว่ำหน้าแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ใหญ่เข้าไปพลิกตัวให้หันหน้ามา ใหญ่ตะลึง “ป้าอุ่น!”
       อุ่นเรือนใกล้ตาย ยกมือให้ใหญ่จับ พยายามพูด “อุ่น...ขอ...ขอโทษ”
       “ไม่ต้องพูดอะไรครับ ผมจะพาป้าไปโรงพยาบาล”
       อุ่นเรือนดึงมือใหญ่ไว้ อุ่นเรือนพยายามพูดออกมาอย่างยากเย็น “คุณ...ไพศาล....ถูก.....ถูก....คุ....”
       พูดเท่านั้นอุ่นเรือนก็ขาดใจตาย หัวตก ใหญ่ร้องลั่นเขย่าตัวอุ่นเรือน “ป้าอุ่น”
       ใหญ่รีบจับร่างอุ่นเรือนให้นอนราบ ก้มหน้าจะผายปอดแต่ยังไม่ทันได้ทำ ตำรวจ 5 นาย กรูกันเข้ามาข้างหลัง มองจากด้านหลังใหญ่เหมือนกำลังทำร้ายอุ่นเรือน
       ตำรวจเล็งปืนไปที่ใหญ่พร้อมกัน “หยุด ยกมือขึ้นเหนือหัว”
       ใหญ่ชะงักเหลียวไปมองเห็นตำรวจยืนเป็นพรืด ใหญ่งุนงง
       ระหว่างนั้นปิ่นอนงค์กับจินตนาแหวกวงตำรวจเข้ามา เห็นอุ่นเรือนนอนอยู่ จึงวิ่งถลาไปหาเขย่าร่างแม่
       “แม่ แม่ แม่อย่าเป็นอะไรนะ”
       ใหญ่ยังงงอยู่ ตำรวจ 2 นายเข้ามาดึงตัวใหญ่ลุกขึ้น ตำรวจอีกคนแตะชีพจรที่คออุ่นเรือน เปิดเปลือกตาดู ตำรวจนายนั้นบอกกับหัวหน้า
       “สิ้นใจแล้วครับ”
       ปิ่นอนงค์ตาค้าง ร้องกรี๊ด โหยหวน
       “ไม่จริง แม่” ปิ่นอนงค์สวมกอดร่างไร้วิญญาณของแม่แน่นร้องครวญคร่ำ “ปิ่นมาแล้ว แม่อย่าทิ้งปิ่นไป” ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าที่นองด้วยน้ำตาขึ้นมองใหญ่ “คุณใหญ่ทำอะไรแม่ปิ่น”
       ใหญ่ตะลึงมองปิ่นอนงค์อย่างผิดหวังน้ำเสียงสั่นเครือ “เธอหาว่าฉันทำร้ายแม่เธอเหรอ ปิ่นอนงค์”
       
       หัวหน้าทีมตำรวจเอากุญแจมือสับเข้าที่ข้อมือใหญ่ทันที ใหญ่ตกใจมองตำรวจหน้าตาตื่น

-------------------------------------------------------

   รถตำรวจที่คุมตัวใหญ่มุ่งหน้ากลับโรงพัก และกำลังแล่นมาบนถนนโล่งซึ่งสองข้างทางเป็นไร่ จู่ๆ มีรถหกล้อโผล่มาจากข้างทางขวางถนนจอดนิ่ง ตำรวจสองนายลงจากรถมาเมียงมอง เดินอย่างระวังไปที่รถหกล้อ
       
       จังหวะนั้นมีชายชุดดำหน้าคลุมปิดด้วยไหมพรมโผล่ออกมาจากสองข้างทาง โยนระเบิดควันแสงจ้า เสียงดังไม่มีสะเก็ด ควันพวยพุ่งไปทั่วบริเวณ
       จากนั้นพงษ์กับลูกน้องก็พุ่งลงจากรถหกล้อ เล็งปืนใส่ตำรวจ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
       “อย่าขัดขืน นิ่งเอาไว้ มือแตะท้ายทอย
       ตำรวจสำลักควันไอไปมา ทั้งตกใจ ทั้งสับสน บางคนพยายามจะสู้ แต่ถูกลูกน้องพงษ์ล็อกกดให้นั่งกับพื้นถนน เหล่าสมุนถือผ้าชุบยาสลบโปะใส่หน้าเหล่าตำรวจ
       ใหญ่ตกใจ ถูกชายชุดดำดึงลงจากรถ ใหญ่ขัดขืนถูกโปะยาสลบร่วงลงไปเช่นกัน
       
       เพ็ญเปิดประตูห้องทำงานใหญ่เข้ามาหน้าตาตื่น งงเมื่อเห็นปานเทพนั่งหน้านิ่งกดโทรศัพท์วางสายพอดี
       “ปาน ทำไมยังมานั่งเฉยอยู่อย่างนี้อีก เค้าว่าคุณใหญ่ฆ่าแม่ของปิ่นตาย เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”
       ปานเทพลุกยืน ไม่ตื่นเต้นสักนิดเพราะรู้เรื่องล่วงหน้า “เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะครับ พ่อให้ผมกับน้าเพ็ญกลับเหมืองไปเตรียมตัวกันเถอะครับ”
       เพ็ญงง มองสบตาปานเทพ
       น้อยนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่เรือนคนงาน รู้ข่าวเรื่องอุ่นเรือนตายแล้ว คนอื่นๆ ต่างเศร้ากันไปหมด
       “ฮือๆๆ ไม่น่าเลยป้าอุ่น เล่นจากไปแบบไม่ทันตั้งตัว”
       “พวกแกเชื่อหรือเปล่าวะว่าคุณใหญ่เป็นคนฆ่าป้าแกน่ะ” หวานถามคนงาน
       เปี๊ยกส่ายหน้ายิกๆ คนงานชายบอกอย่างมาดมั่น “ข้าก็ไม่เชื่อ”
       คนงานอีกคนพยักหน้าคล้อยตามไม่เชื่อเช่นกัน
       “แต่มันก็ไม่แน่นะโว้ย คุณใหญ่ขี้โมโหออกจะตายไป” หวานว่า
       น้อยเห็นด้วย “จริง หนูโดนขู่อยู่บ่อยๆ เอะอะไม่พอใจก็ฆ่าหมกไร่ตลอด”
       บรรดาคนงานหญิงร้องใช่ๆ เปี๊ยกเถียงแทนโวยว่าไม่จริง “แล้วทำไมเอ็งต้องมาเถียงแทนด้วย”
       คนงานชายคนเดิมบอก “ลูกผู้ชายไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอกโว้ยนังหวาน”
       หวานฉุน “อ้าว แล้วลูกผู้หญิงมันใส่ร้ายผู้ชายหรือไงวะ”
       น้อยพลอยพยัก “ใช่ ผู้ชายชอบรังแกผู้หญิง”
       เปี๊ยกทำท่าจิกหัวตัวเองว่าผู้หญิงก็ชอบจิกใช้ผู้ชาย
       หวานโมโห “ผู้หญิงชอบจิกใช้ผู้ชายตรงไหน นี่เอ็งหลอกด่าข้าเหรอ เอ็งตายไอ้เปี๊ยก”
       หวานทะยานเข้าไปตีๆ ผัว เปี๊ยกปัดป้องน้อยหงุดหงิด
       “โอ๊ย พอได้แล้ว คุณใหญ่ก็หายตัวไป ป้าอุ่นก็ตาย ลุงหวินก็ยังเจ็บอยู่ แล้วพวกเราจะเป็นยังไง”
       คนงานต่างขวัญหนีกันกระเจิง

  ที่โรงพยาบาล ถวิลนอนหลับอยู่บนเตียง มีจอมยืนแอบดูที่ช่องกระจกตรงประตู จอมทำท่าจะก้าวเท้าเข้าไปจะเปิดประตู แต่แล้วเกิดลังเลเสียงถวิลดังก้องในหัว
       
       “เอ้อสิวะ ข้ามันผิดเอง ผิดตั้งแต่ทำให้เอ็งเกิด เอ็งไปซะ ต่อนี้ไปไม่ต้องมาเป็นพ่อเป็นลูกกันอีก”
       จอมไม่กล้าเข้าไปชักเท้ากลับ ปิดประตูหน้าห้อง จอมเครียด กัดฟัน ส่ายหน้าเหลือบมองไปในห้อง
       
       จอมเดินหน้าเครียดเข้ามา ชะงักเมื่อเจอปิ่นอนงค์กะจินตนาสวมชุดดำหน้าเศร้าสวนมา จอมรีบเข้าไปหา
       “ปิ่น จิน”
       สองคนไม่คาดฝันที่ได้เจอจอมที่นี่
       “จอม จอมไปอยู่ไหนมา ทำไมถึงหายไปเฉยๆ”
       “เรามีอะไรต้องให้คิดมากมาย เลยอยากหลบไปสักพัก” จอมมองจ้องเสื้อผ้าสองคน “ทำไมถึงแต่งชุดดำกัน”
       ปิ่นอนงค์เช็ดน้ำตาสะอื้นพูดไม่ออก จอมใจหายจินตนาบอกแทน “ป้าอุ่นตายแล้ว จอม”
       “อะไรนะ”
       จอมตกใจ สับสน เพราะครองสุขเพิ่งบอกว่าอุ่นเรือนปลอดภัย และเวลานี้อยู่กับครองสุข
       
       ครองสุขนั่งหงุดหงิดอยู่โต๊ะข้างตึกบ้านเสี่ยตง ดูนาฬิกาข้อมือ รอเสี่ยตงกับสมุน จอมเดินดุ่มเข้ามาหน้าเครียด
       “ไหนว่าป้าอุ่นอยู่กับคุณนาย ปลอดภัยดีไงครับ ทำไมป้าอุ่นถึงตาย มันยังไงกันแน่”
       “อย่าโวยวาย มาทางนี้ก่อน”
       ครองสุขดึงจอมหลบไปคุยกันข้างตึก
       “ผมล่อไอ้ใหญ่ไปให้ลูกน้องเสี่ยฆ่าตามที่คุณนายสั่ง ทำไมคนตายกลับเป็นป้าอุ่น”
       ครองสุขตาหลุกหลิกมีพิรุธ “ก็ไอ้ใหญ่น่ะสิ ต้องเป็นฝีมือของมันแน่ มันต้องให้ลูกน้องมาจับนังอุ่นไป แต่เวรกรรมมีจริง นังปิ่นเลยตามไปเห็นไอ้ใหญ่ฆ่าแม่ตัวเองกับตา ลูกน้องเสี่ยไปถึง ตำรวจก็แห่กันมาแล้ว”
       จอมหลงกล ทั้งโกรธทั้งเกลียดใหญ่มากขึ้น “ไอ้ใหญ่ฆ่าป้าอุ่น ไอ้คนเลว”
       ครองสุขสะใจยื่นหน้ากระซิบ “เห็นมั้ย ความหวังของเธอใกล้จะเป็นจริงแล้ว ถึงไอ้ใหญ่ไม่ตาย แต่มันไม่รอดมือตำรวจแน่”
       
       น้อยกะหวานช่วยกันยกกระเป๋าเดินทางของเพ็ญกับปานเทพออกมา
       ปานเทพตามออกมา เปี๊ยกขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาจอดท่าทีร้อนรน รีบเข้าไปหาปานเทพชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปทางหน้าเรือนใหญ่ ปานเทพกะเพ็ญมองตาม
       รถเสี่ยตงกับสมุนแล่นเข้ามาสองคัน เสี่ยตงลงจากรถพร้อมสมุน จู่ๆ สมุนตรงเข้ากระชากกระเป๋าเดินทางของปานเทพกะเพ็ญโยนลงพื้น
       ปานเทพเปี๊ยกกระโดดเข้าเตะต่อยกับสมุนชุลมุนคนละหมัดสองหมัด เสียงปืนดังเปรี้ยง เพ็ญถือปืนอยู่จังก้าอยู่ สมุนเสี่ยตงชะงัก ถอยไปยืนคุมเชิง
       “พวกแกกำลังบุกรุกไร่ไพศาล ถ้าไม่กลับไปดีๆ ชั้นจะแจ้งตำรวจ” เพ็ญคำราม
       สมุนจะชักปืน เสี่ยตงโบกมือห้ามพร้อมกับหัวเราะ
       “พวกแกมีสิทธิอะไรมาไล่ชั้น ก็เจ้าของบ้านเค้าเชิญชั้นมาเอง”
       ครองสุขกับจอม ก้าวลงจากรถ เดินมาหาปานเทพกับเพ็ญ
       “เก็บปืน แล้วก็ขนข้าวของไปจากที่นี่ซะ เวลาของพวกแกมันหมดแล้ว ไอ้ใหญ่เป็นฆาตกรฆ่าคน ต่อไปนี้ชั้นคือเจ้าของไร่นี้คนเดียว และจอมคือหัวหน้าคนงานคนใหม่ของที่นี่”
       จอมเดินขึ้นมายืนข้างครองสุขราวกับบอดี้การ์ด หวาน น้อย เปี๊ยก ปานเทพ และเพ็ญ สบตากันงงๆ
       “ทั้งหมดเป็นแผนของคุณนายที่จะใส่ร้ายคุณใหญ่ใช่มั้ย” ปานเทพถาม
       ครองสุขตะคอกกลับ “นังปิ่นกับตำรวจเห็นกับตาว่าใหญ่ฆ่านังอุ่น สันดานโจรยังไงมันก็เป็นโจรวันยังค่ำ ถ้าแกเก่งนักก็ช่วยออกจากคุกให้ได้ซิ”
       เพ็ญลดปืนลง ปานเทพจ้องครองสุข
       “ชั้นจะคอยดูว่า กฎหมายกับกฎแห่งกรรม อย่างไหนจะจัดการกับคนอย่างแกได้ก่อนกัน คุณนายครองสุข”
       ปานเทพกะเพ็ญขึ้นรถขับออกไปเร็วรี่ เปี๊ยก น้อย และหวานถอยกรูดไปรวมกัน
       
       ครองสุข กับเสี่ยตง พร้อมสมุนจะเข้าบ้าน จู่ๆ รถตำรวจขับมาอีกทางแล่นเข้ามาจอด หมู่มวลชะงักมองตำรวจงงๆ 

-----------------------------------------------------
ครองสุขนั่งที่หัวโต๊ะในโถงเรือนใหญ่ ออกอาการโมโหมากที่รู้เรื่องจากทีมตำรวจว่าใหญ่หนีไปได้ แต่ยังคุมอารมณ์ปั้นหน้าให้เป็นปกติ
       
       “อะไรกัน ตำรวจตั้งสี่ห้าคนปล่อยให้ไอ้ใหญ่มันหนีไปได้ยังไง”
       นายตำรวจท้องที่ยืนอยู่ปลายโต๊ะ “เรายังไม่รู้ว่า พวกไหนมาชิงตัวผู้ต้องหาไป ตำรวจชุดนั้นห้าคนยังไม่ได้สติเลยสักคน ผมต้องขออนุญาตตรวจค้นไร่ไพศาลด้วยครับ”
       ขณะฟังครองสุขปรายตามองจอม กะเสี่ยตงงงๆ เครียดกัน
       “ได้ค่ะ เชิญเลย ชั้นจะให้หัวหน้าคนงานพาไปตรวจค้นให้ทั่วเลย แล้วจะไม่เรียกกำลังเสริมเหรอคะ ไอ้ใหญ่มันโหดร้ายอำมหิตขนาดนั้น แม่ยายตัวเองแท้ๆ ยังจับกดน้ำตายคามือ”
       “เชิญครับ คุณตำรวจ”
       จอมผายมือ แต่หลบหน้าหลบตากลัวตำรวจ แต่ฝืนใจพาตำรวจออกไป
       
       ปิ่นอนงค์นั่งหน้าหมอง เอามือลูบรูปอุ่นเรือนในกรอบไม้ เป็นรูปตั้งหน้าศพ แล้วร้องไห้ออกมา
       “ผลชันสูตรบอกป้าอุ่นขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ” 
       จินตนานั่งมองสงสารเพื่อน แตะแขนถาม “เธอคิดว่าคุณใหญ่จะฆ่าป้าอุ่นได้จริงๆ เหรอ”
       ปิ่นอนงค์เฉย ไม่ตอบ น้ำตาไหลพรากๆ “เราไม่ได้เข้าข้างคุณใหญ่นะ แต่ป้าอุ่นกับคุณใหญ่ไปอยู่แถว
       นั้นได้ยังไง แล้วใครล่ะที่โทรมาบอกปิ่น ชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ยอมบอก มันแปลกๆอยู่นะปิ่น”
       ปิ่นอนงค์ส่ายหน้าไม่อยากรับฟังอะไร “เราไม่อยากรับรู้เรื่องสกปรกอะไรพวกนี้อีกแล้ว พอกันที”
       ปิ่นอนงค์รีบหยิบผ้าผืนเล็กใกล้ตัว เช็ดกระจกกรอบรูปไปมาร้องไห้หนัก พูดกับรูปแม่
       “ปิ่นหารูปแม่ไม่ได้เลย เหลือแต่รูปนี้รูปเดียว สำหรับปิ่นแม่สวยที่สุดในโลก ปิ่นจะเช็ดรูปให้แม่นะจ๊ะ จะได้ไม่มีรอยเปรอะเปื้อนมาติดแม่ของปิ่น ปิ่นจะเช็ดให้สะอาด เช็ดให้สะอาด ให้สะอาด ๆๆ
       จินตนาร้องไห้สงสารจับใจ ขยับตัวจับมือปิ่นอนงค์
       “พอแล้วปิ่น เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เราจะช่วยกันจัดงานศพให้ป้าอุ่นอย่างดีที่สุดนะ นะปิ่น”
       
       ปิ่นอนงค์ยังเช็ดรูปร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน จินตนากอดปิ่นอนงค์เศร้าสะเทือนใจนัก


-----------------------------------------------------------------------

ใหญ่ถูกนำตัวกลับมายังบ้านปลอดในเหมืองที่ใต้ และเวลายามค่ำคืนนั้นเขายังคงนอนสลบไสลอยู่เพราะฤทธิ์ยาสลบ สักครู่หนึ่งก็งัวเงียตื่น
       
       ใหญ่ยันตัวลุกนั่งมึนๆ หัว เหลียวดูรอบตัวไปมาคุ้นๆ คว้าขวดน้ำมาดื่มอย่างกระหาย ใหญ่นั่งทบทวนเหตุการณ์ แล้วโผไปที่หน้าต่างมองออกไปเห็นภายนอก รู้ว่าที่นี่เป็นบ้านปลอด ใหญ่หันกลับมาครุ่นคิด
       ใหญ่โผไปที่ประตูจะเปิด เปิดไม่ออก ใหญ่ทุบประตูแต่ด้านนอกถูกล็อกแน่นหน้า ใหญ่ถอยออกมายกเท้าเตรียมถีบประตู
       ปลอดเปิดประตูเข้ามา ใหญ่ตกใจตาค้าง ยกมือไหว้ พงษ์เดินตามมา
       “อา อาปลอด นี่ฝีมืออาเหรอครับ”
       “ก็ผมเตือนแล้ว คุณใหญ่ไม่ฟัง เห็นมั้ย ปิ่นอนงค์ทำให้คุณใหญ่เดือดร้อนอีกจนได้” ใหญ่หน้าเสีย “ดีนะที่ผมกับไอ้ปานส่งข่าวกันตลอด เห็นท่าไอ้จอมไม่ดี ผมเลยส่งไอ้พงษ์ไปแอบดูแลคุ้มครองคุณใหญ่” ใหญ่ทรุดตัวลงนั่งที่เตียง “คราวนี้คงเป็นบทเรียนให้คุณใหญ่ตัดใจจากปิ่นอนงค์ได้สักที”
       พงษ์หันมา “ขอโทษนะครับ คุณใหญ่ ยาสลบแรงไปหน่อย”
       “แต่ทำอย่างนี้ไม่ถูกนะครับอา ผมไม่ได้ฆ่าป้าอุ่น ทำไมผมต้องหนีด้วย ผมควรจะอยู่สู้ความจริงที่นั่น”
       ปานเทพกับเพ็ญเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี ปานเทพหงุดหงิดด่าใหญ่
       “อยากจะอ้วก แกมีพยานหรือ คำพูดแก้ตัวของคนมีชนักติดหลังอย่างแก ตำรวจคงเชื่อ”
       ปลอดดีใจ “เพ็ญ ไอ้ปาน ทำไมมาถึงเร็วนัก นึกว่าจะมาถึงค่ำๆ”
       ใหญ่งุนงงเข้าไปใหญ่ที่สองคนก็มาที่นี่ด้วย “ทำไมมารวมกันอยู่ที่นี่หมดล่ะครับ แล้วที่ไร่ไพศาล”
       ปานเทพหันไปหาปลอด “ผมมีเรื่องสำคัญต้องรายงานพ่อ”
       
       ปลอดโกรธจัด ตบโต๊ะเล็กตรงระเบียงเปรี้ยง ลุกยืนพรวด
       “อีงูพิษครองสุข ต้องเป็นมัน แผนของมันทั้งหมด ถึงได้กล้าเสนอหน้ากลับมาเป็นเจ้าของไร่อีกครั้ง”
       เพ็ญหันไปทางปานเทพ กับใหญ่ยืนพิงระเบียง “เราทำอะไรกับคุณนายได้มั้ย นายปาน”
       “คุณนายมีสิทธิ์ได้มรดกครึ่งหนึ่งเพราะจดทะเบียนกับคุณไพศาล ยิ่งตอนนี้ใหญ่โดนข้อหาฆ่าคนตาย คุณนายต้องอาศัยข้อได้เปรียบนี้ยึดไร่ไว้ทั้งหมด แต่จะวิธีไหนเท่านั้น”
       “ก็วิธีเดียวกับที่มันเคยหลอกให้นายไพศาลหลงมันหัวปักหัวปำนั่นแหละ” ปลอดมองจ้องใหญ่ “ส่งนังกากีมาทำให้คุณใหญ่ลุ่มหลง จนเสียท่ามันจนได้”
       ใหญ่แค้นจัด “ผมจะไปสืบหาความจริงว่าใครฆ่าป้าอุ่นตายกันแน่”
       ใหญ่จะไป ปานเทพเข้ามาขวาง “ฉันไปเองดีกว่า แกมีคดีติดตัวอยู่นะโว้ย”
       ปลอดตวาด “ไม่ต้องไปทั้งคู่ ผมจะสืบเอง” มองจ้องหน้าลูกชาย “ฉันก็ไม่ไว้ใจแกเหมือนกัน”
       
       ปานเทพหน้าเหลอหลา เพ็ญอมยิ้มมองขำๆ ใหญ่หน้าเครียด คิดหนัก

----------------------------------------------------------

วันต่อมา โลงศพอุ่นเรือนตั้งอยู่บนศาลาที่วัดแห่งหนึ่ง ขณะที่น้อย หวาน เปี๊ยก ช่วยกันกับคนงานแต่งดอกไม้แทงหยวกกัน ปิ่นอนงค์กับจินตนาเดินเข้าศาลามา ต่างมองกันไปมากับกลุ่มน้อย หวาน เปี๊ยก
       
       น้อย หวาน และเปี๊ยก ลุกเดินไปหาสองสาว “พี่เสียใจด้วยนะปิ่น” หวานเอ่ยขึ้น
       ปิ่นอนงค์ยิ้มเศร้า “ขอบคุณทุกคน แต่พาคนงานกลับไปเถอะ ปิ่นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากไร่ไพศาล จากคุณใหญ่”
       เปี๊ยกอธิบายวุ่นวาย หวานหงุดหงิดเข้ามาดันเปี๊ยกถอยไป “เข้าใจผิดแล้วปิ่น นี่พวกเรามากันเองนะ เคารพรักป้าอุ่นกันทั้งนั้น”
       น้อยเสริม “ใช่ คุณใหญ่น่ะหายตัวไปแล้ว”
       จินตนาอึ้ง “อะไรนะ คุณใหญ่ถูกตำรวจจับไปนี่”
       เปี๊ยกเข้ามาอ้าปากจะพูดบ้าง น้อยดันเปี๊ยกออกไปอีก อธิบายแทน
       “ถูกจับจริง แต่หนีไปได้ ตำรวจยังมาค้นไร่หาตัวเลย”
       หวานพูดเบาๆ กับปิ่นอนงค์ “คุณนายกลับมาอยู่ที่ไร่แล้ว พาเสี่ยอะไรมาด้วยก็ไม่รู้ และที่ปิ่นต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ คุณนายตั้งไอ้จอมเป็นหัวหน้าคนงานคนใหม่”
       ปิ่นอนงค์กับจินตนาหันไปสบตากัน ต่างคนต่างตกใจ
       
       ครองสุขอยู่ในห้องนอน ยืนยิ้ม กิริยาเย้ยหยันขณะมองสบตากับรูปไพศาล
       “ชั้นกลับมาแล้วค่ะคุณ ฉันมีข่าวดีมาบอก ไอ้ใหญ่ลูกของคุณมันทำอะไรชั้นไม่ได้ สุดท้าย มันก็ต้องหนีตำรวจหัวซุกหัวซุน เหมือนเดิมไม่มีผิด”
       ครองสุขหัวเราะใส่รูป ทรรศนะเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา ครองสุขเหลียวไปมองตกใจ
       “คุณน้ารู้เห็นเรื่องการตายของป้าอุ่นใช่มั้ย”
       “ตานะ”
       “คุณน้าเป็นคนสั่งฆ่าป้าอุ่นหรือเปล่า ตอบผมแค่ว่า ใช่ หรือไม่ใช่ ก็พอ”
       ครองสุขรีบถลาไปที่ประตูโผล่ดูไปมา แล้วรีบปิดประตู ครองสุขดันตัวทรรศนะไปนั่ง พูดไปด้วย จ้องตาไปด้วย ทั้งปลอบทั้งขู่
       “ห้ามเลยนะ อย่าพูดอย่างนี้อีกเด็ดขาด ไร่นี้กำลังจะเป็นของนะคนเดียว นะควรจะดีใจสิ แล้วเตรียมฉลองตำแหน่งเจ้าของไร่คนใหม่กันจะดีกว่า”
       ทรรศนะลุกยืนทันที ถอยไปอีกทาง “ผมไม่ต้องการเป็นเจ้าของไร่ไพศาล ผมอยากไปให้พ้นๆจากที่นี่ ไปให้พ้นๆ จากเรื่องราวบ้าๆ ที่นี่”
       ครองสุขเข้าไปหา ดึงตัวแล้วเอาสองมือประคองใบหน้าลูกชาย “นะไม่อยากได้นังปิ่นอนงค์แล้วเหรอ”
       ทรรศนะชะงักจังงัง สับสนในใจ
       
       ฝ่ายทัศนีย์เดินถือกระเป๋าเสื้อผ้าลงบันไดจะออกประตูไป ครองสุขเข้ามาจับแขน นีสะดุ้งกระเป๋าหล่นพื้น
       “แกจะไปไหน ยัยนี”
       ทัศนีย์สะบัดแขน ถอยไปอีกทาง “ไปไหนก็ได้ที่ไม่มีไอ้เสี่ยตง นีไม่อยากโดนฉุดไปปล้ำอีก”
       เสี่ยตงถือแก้วน้ำเข้ามาพอดี โอบไหล่ครองสุข “พูดอะไรหยาบคาย ถึงฉันจะเป็นนักเลง แต่ชั้นก็เป็นคนมีคุณธรรมประจำใจ เรื่องจะคิดรวบหัวรวบหางเอาทั้งน้าทั้งหลานมาเป็นเมีย ฉันไม่ทำหรอก”
       ทัศนีย์มองเสี่ยสลับครองสุขไปมาแล้วนึกรู้ทันที
       “ต๊าย ... นี่ตกลง นีได้น้าเขยอีกคนแล้วเหรอคะ” ขยับมากระซิบถามครองสุข “แล้วคนเก่าเอาไปทิ้งไว้ที่ไหนล่ะคะ”
       ครองสุขกลัวเสี่ยตงได้ยิน บีบแขนทัศนีย์อย่างแรงเป็นเชิงบอกให้หุบปาก
       “ขอตัวก่อนนะคะเสี่ย ฉันจะไปช่วยยัยนีจัดเสื้อผ้าเข้าตู้”
       ครองสุขกระชากตัวทัศนีย์ไปพร้อมกระเป๋า เสี่ยตงมองจ้องสะโพกทัศนีย์ตาเยิ้ม
       “น่าเสียดาย”
       
       ครองสุขผลักทัศนีย์กลับเข้าห้อง ทัศนีย์ถลาไปนั่งบนเตียง ครองสุขเสียงเข้ม 
       “ถ้าอยากมีที่ซุกหัวนอน กินอิ่มนอนหลับ ก็เย็บปากแกให้สนิทชั้นทำทุกอย่างก็เพื่อแกกับตานะ กว่าจะได้กลับมาอยู่ที่นี่ชั้นต้องทำอะไรไปบ้าง แกไม่รู้หรอก”
       จากดุดัน น้ำเสียงครองสุขเปลี่ยนเป็นน้อยใจลูก อัดอั้นตันใจ
       “แล้วคุณน้าเคยถามนีมั้ยว่านีต้องการหรือเปล่า”
       “ไม่เห็นต้องถาม อย่างแกก็ต้องการแค่เงินกับผู้ชาย”
       ทัศนีย์น้อยใจ ลุกยืน พูดลอยหน้า “เป็นลูกสาวที่เหมือนแม่มากๆ ใช่มั้ยคะ”
       แล้วทัศนีย์ก็เดินหนีเข้าห้องน้ำ ครองสุขโกรธคว้าหมอนปาใส่ ทัศนีย์ปิดประตูปังไปก่อน หมอนโดนประตู
       ครองสุขโกรธจนตัวสั่น “ทำไมแกไม่ขึ้นมาขี่อยู่บนหัวฉันเสียเลยล่ะ ถ้าไม่มีฉันป้อนข้าว ป้อนนมให้ แกจะทำปากดีเถียงฉอดๆได้อย่างนี้หรือ”
       ทัศนีย์ตะโกนเถียงออกมา “เท่าที่นีจำได้ นีเห็นแต่คนใช้เป็นคนป้อนข้าว ป้อนน้ำให้นีกับพี่นะ ไม่เห็นจำได้เลยว่าคุณน้าเคยทำ”
       ครองสุขเถียงไม่ออก “แกนี่ไม่เหมือนพี่ชายแกเลยสักนิด”
       
       ครองสุขเดินหนีออกจากห้องไปแล้ว ส่วนในห้องน้ำทัศนีย์ยืนพิงประตูดูท่าทีซึมๆ

-----------------------------------------------------------------

  ตอนเย็นวันนั้น ที่ศาลาสวดศพ ใบหน้าศพอุ่นเรือนในรูปที่ตั้งอยู่หน้าโลงแย้มยิ้ม ขณะที่ปิ่นอนงค์นั่งมองรูปแม่ น้ำตาไหล จินตนาเดินเข้ามาหา
       
       “กับข้าวเสร็จแล้ว ไปกินข้าวก่อนเถอะปิ่น เธอไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ”
       “จินไปกินก่อนเถอะ เรายังไม่หิว”
       จินตนาฝืนยิ้มให้แล้วเดินออกไปด้านข้าง
       ระหว่างนั้น ครองสุข ทรรศนะ และจอม เดินเข้ามาหยุดมองที่โลงศพ แล้วครองสุขก็เล่นละครอีกฉากถลาเข้ามาตรงหน้าโลงศพ ปล่อยโฮออกมา ร่ำไห้เหมือนใจจะขาด
       “อุ่นของชั้น อุ่นเรือน ทำไมมาหนีชั้นไปอย่างนี้ ต่อไปนี้ใครจะคอยดูแลห่วงใยชั้น ไอ้ใหญ่ ชั้นจะไม่มีวันให้อภัยแกชั่วชีวิต”
       ปิ่นอนงค์มองทรรศนะกับจอม ทรรศนะเข้ามานั่งข้างครองสุข จอมนั่งเยื้องหลังปิ่นอนงค์
       ปิ่นอนงค์ส่งธูปให้ทรรศนะกับครองสุข ทรรศนะรับไปไหว้ แต่ครองสุขรับมาแล้วปักเลยไม่ได้ให้ความสนใจ
       ครองสุขหันมาหาเอามือปิ่นอนงค์มากุม “ปิ่น กลับไปอยู่ไร่ไพศาลด้วยกันเถอะนะ สิ้นบุญอุ่นเรือนแล้ว แกก็เหมือนญาติคนเดียวที่ชั้นมี กลับไปอยู่ด้วยกันนะปิ่นนะ”
       ปิ่นอนงค์งง มองหน้าครองสุข
       ครองสุขแอบจิกตาใส่ทรรศนะ ให้ทรรศนะพูด ทรรศนะเอ่ยขึ้น
       “ปิ่นจะอยู่สบาย ปลอดภัย ตอนนี้ตำรวจกำลังไล่ล่าคุณใหญ่อยู่ เค้าไม่กล้ามารบกวนวุ่นวายกับปิ่นหรอก”
       “ก็ใช่น่ะสิ มันทำกับป้าอุ่นได้ขนาดนี้ มันจะกล้าโผล่หน้ามาได้ยังไง หน้าตัวเมียอย่างนั้น ไม่สมควรเป็นเจ้าของไร่ไพศาลหรอก” จอมว่า
       ปิ่นอนงค์เช็ดน้ำตา เหลือบมองจอม เห็นใหญ่โผล่ไกลๆ ไปมา ปิ่นอนงค์เขม้นตามอง ใหญ่หายไปแล้ว
       ปิ่นอนงค์หลบสายตาทรรศนะ กับครองสุข
       
       ปิ่นอนงค์เดินออกมาหมุนตัวมองหาใหญ่ เห็นใหญ่แอบมองอยู่ จู่ๆ ปิ่นอนงค์มึนหัว แต่หาที่ยึดไว้ได้ ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งยองๆ เพื่อไม่ให้ล้ม
       ใหญ่เป็นห่วง ลืมตัวจะออกไปหา แต่ปานเทพโผล่เข้ามาด้านหลังใหญ่ จับข้อศอกใหญ่ทั้งสองข้างไว้
       “อย่านะโว้ย”
       ใหญ่หันมาเจอปานเทพก็ตกใจ “ขอเวลาฉันเดี๋ยวเดียว ฉันจะให้ปิ่นเข้าใจว่าฉันฆ่าแม่เค้าไม่ได้”
       ปานเทพเตือนสติ “ใครจะเข้าใจยังไงก็ช่าง ตอนนี้แกเป็นผู้ร้ายที่ตำรวจต้องการตัว พวกคุณนายมันก็ไม่ปล่อยแกหรอก”
       “แต่พ่อเข้าใจผิดว่าฉันฆ่าชู้ยัยครองสุขมาคนหนึ่งแล้ว ฉันไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก” ใหญ่ว่า
       “มันเกิดขึ้นแล้วไอ้ใหญ่ แล้วแกก็จะทำให้มันเลวร้ายไปกว่านี้ไม่ได้ สงบสติอารมณ์หน่อยซิวะ
       ใหญ่สงบลงแล้ว ปานเทพจึงเอ่ยขึ้น “มานี่ ฉันจะให้แกดูอะไร” แล้วลากใหญ่ไป
       ทรรศนะตามมาเห็นจึงเข้าไปประคองปิ่นอนงค์ “ปิ่น เป็นอะไรไปจ๊ะ”
       ใหญ่ชะงักได้ยินเหลียวไปมอง แต่จำต้องตามปานเทพไป
       
       ปานเทพดึงใหญ่มาหลบดูที่ด้านนอกศาลา มีลูกสมุนเสี่ยตงซุ่มอยู่ตามมุมนับสิบคน
       “ดูให้เต็มตาว่าถ้าแกออกไปหาปิ่นอนงค์ อะไรจะเกิดขึ้น”
       ใหญ่เห็นตรงมุมหลังต้นไม้ใหญ่หลายต้นมีลูกน้องเสี่ยตง 5 คนดักซุ่มอยู่ แบบไม่เปิดเผยพร้อมอาวุธปืน
       ใหญ่มองไปอีกมุมลูกน้องเสี่ยตง 4 คน ก้มหลบอยู่รอการมาของใหญ่ ขณะที่อีกมุมเสี่ยตงเดินเข้ามาคุยกับลูกน้องเหมือนสั่งการ
       
       ใหญ่นิ่งฟังปานเทพ “มันรอแกอยู่ แกออกไปเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จบ”
       “ฉันขอโทษว่ะ แกจอดรถไว้ที่ไหน”
       “หลังป่าช้า”
       ปานเทพก้มหน้า เดินไปอย่างระแวดระวัง ใหญ่ตามติด
       
       รถยนต์ของอรสอางค์แล่นเข้ามาจอด อรสอางค์อยู่ในชุดสีสันสดใสก้าวลงจากรถ จิ๋วลงตามมาหน้าตื่น ดึงแขนอรสอางค์เอาไว้ “อย่าเลยค่ะคุณหนู กลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่านะคะ นี่เป็นงานศพ มาเอะอะมะเทิ่งมันจะไม่งาม”
       อรสอางค์ไม่แคร์ “ช่างหัวคนอื่นปะไร สามีกำลังจะนอกใจ ใครจะทนรออยู่ที่บ้านได้ หลีกไป”
       อรผลักจิ๋วเซเกือบล้ม อรสอางค์หันไปเห็นทรรศนะประคองปิ่นอนงค์เดินไปทางศาลานั่งพัก
       
       อรสอางค์รีบวิ่งตามคำรามในลำคอ “คาหนังคาเขา”

-------------------------------------------------------------

 ทรรศนะประคองปิ่นอนงค์มานั่งที่ศาลาพลางเอ่ยถามอย่างห่วงใย
       
       “ไหวมั้ย หรือจะกลับไปนอนพัก ทางนี้พี่กับจินตนาจะช่วยดูความเรียบร้อยให้เอง”
       “ไม่ไหวก็ต้องกัดฟันทนค่ะ เป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำเพื่อแม่ต่อไป” เสียงปิ่นอนงค์ขาดหายไป “ไม่มีแม่คอยบังคับให้ทำนั่นทำนี่ ปิ่นปิ่นเดินไปไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน มันมืดไปหมด”
       จากนั้นปิ่นอนงค์ก็พูดไม่ออก ก้มหน้าน้ำตาไหล ทรรศนะสงสารดึงปิ่นอนงค์เข้ามากอด
       ปิ่นอนงค์ปล่อยโฮเพราะรู้สึกว่าทรรศนะเหมือนพี่ชาย ทรรศนะลูบผมปิ่นอนงค์ 
       อรสอางค์เข้ามาเห็นพอดี อรสอางค์ยืนตัวแข็ง
       ทรรศนะเช็ดน้ำตาให้ปิ่นอนงค์อย่างอ่อนโยน ในใจรู้สึกผิดเรื่องอุ่นเรือน
       “พี่ทำให้ปิ่นเหลือตัวคนเดียว พี่จะหย่ากับอร ปิ่นรอพี่นะ”
       ปิ่นอนงค์ตกใจ “ไม่นะคะ”
       จังหวะนั้นอรสอางค์ทนไม่ไหวกรี๊ดออกมาด้วยความแค้น
       “นังปิ่น นังหน้าด้าน แกคิดจะแย่งสามีฉัน อย่าหวังเลย”
       อรสอางค์พุ่งเข้าไปหา ทรรศนะตกใจรีบปล่อยปิ่นอนงค์ เข้าไปจับอรสอางค์
       “อย่าอร!”
       อรสอางค์ของขึ้นเต็มที่ตบหน้าทรรศนะฉาดใหญ่แล้วผลักจนเซไป จากนั้นก็โผนเข้าไปบีบคอปิ่นอนงค์อย่างรวดเร็วจนปิ่นอนงค์ไม่ทันตั้งตัว
       “ตายเสียเถอะนังปิ่น”
       ทรรศนะตกใจ รีบเข้าไปช่วยง้างมืออรสอางค์ออก แต่อรสอางค์ยิ่งบีบแน่น ปิ่นอนงค์ย่ำแย่จะหายใจไม่ออกออยู่แล้ว
       “ปล่อยปิ่น อร” ทรรศนะตวาด
       อรสอางค์ไม่ฟังอะไรแล้ว “ไม่ปล่อย!”
       จินตนากับจิ๋ววิ่งเข้ามาเห็น ตกใจ “คุณหนู!”
       จิ๋ว จินตนาเข้าไปช่วยดึงอรสอางค์จนหลุด อรสอางค์คลุ้มคลั่งสะบัดสุดแรงจนสองคนกระเด็นไปคนละทาง
       อรสอางค์ชี้หน้าด่าไม่หยุด “คนอย่างอรสอางค์ไม่มีวันยอมแพ้นังไพร่ชั้นต่ำอย่างแก”
       ปิ่นอนงค์สุดทนประคองตัวเองเดินเข้าไปหาอรสอางค์ ไม่มีใครคิด ปิ่นอนงค์กระชากมืออรสอางค์ทั้งสองข้างจับไปที่คอตัวเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้น
       “อยากให้ตาย ก็จะตายให้ ปิ่นเป็นต้นเหตุของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด ไม่มีปิ่น มันจะได้จบ คุณอรจะได้สบายใจ”
       อรสอางค์อึ้งไม่นิดหนึ่ง สองคนจ้องหน้าสู้สายตากันอย่างไม่หลบตา อรสอางค์เงื้อมือตบหน้าปิ่น
       “คิดว่าฉันไม่กล้าหรือ แกอยากให้นะเห็นว่าฉันเป็นคนร้ายกาจส่วนแกมันนุ่มนิ่มน่าสงสาร ฉันยอมหลงกลแกแล้วกัน”
       อรสอางค์เงื้อมือจะตบจริง ทรรศนะกับจิ๋วโผเข้ามาช่วยกันลากอรสอางค์ออกไป
       “หยุดบ้าได้แล้วอร” ทรรศนะตวาด
       เสียงอรสอางค์ยังด่าปิ่นอนงค์ไม่หยุด “มันต่างหากที่บ้า บ้าผู้ชาย อรจะฆ่ามัน”
       ปิ่นอนงค์หมดแรงจะยืนหยัด ทรุดลงไปที่พื้น จินตนาเข้าไปประคอง
       
       ได้เวลาพระเริ่มสวด ปิ่นอนงค์นั่งก้มหน้าพนมมือหน้าเศร้า  ถัดไปเป็นจินตนา และ จอม
       ครองสุขนั่งที่โซฟาพนมมือมองรูปอุ่นเรือน คิดในใจ
       “ฉันรู้ว่าแกรักฉันนังอุ่น แต่สิ่งที่แกทำให้ ฉันไม่เคยขอ ไม่เคยอยากได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาเคียดแค้นอะไรฉัน แกเกิดในถังขยะ ตายแล้วก็เป็นขยะ ชีวิตแกมันก็มีอยู่แค่นี้ แต่สำหรับฉัน ฉันต้องมีทุกอย่าง”
       จู่ๆ ครองสุขลุกยืนเดินออกไป โดยไม่สนใจฟังพระสวด 
       
       ทางด้านทรรศนะเดินหนีอรสอางค์เข้ามาในศาลา อรสอางค์ไล่ตาม กระชากแขนทรรศนะ
       “นะมีอะไรกับมันแล้วใช่มั้ย นะถึงจะเลิกกับอร”
       “ปิ่นไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหลับนอนกับใครง่ายๆ”
       อรสอางค์ยิ่งแค้น “มันเป็นแค่ลูกคนใช้ ทำไมต้องไปยกย่องเทิดทูนมัน หรือชอบเกลือกกลั้วของต่ำๆ”
       “ผมต้องการคนที่เข้าใจผม ใส่ใจดูแลผม รู้ว่าผมเสียใจตอนไหน ทุกข์ใจตอนไหน คนที่เห็นผมมีค่า แม้ว่าผมจะเป็นคนไม่เอาไหนเลย ปิ่นอนงค์เป็นแบบนั้น”
       อรสอางค์เสียใจ น้ำตาไหลริน พูดเสียงเบาหวิว “แล้วอรล่ะ ที่ผ่านมานะดีกับอรสารพัด มันคืออะไร”
       “เพราะอรเป็นผู้หญิงที่perfect ทุกอย่าง ผู้ชายคนไหนที่ได้อรเป็นแฟนก็มีแต่ความภูมิใจ แต่แค่ความภูมิใจมันสร้างครอบครัวไม่ได้
       อรสอางค์ร้องลั่นทนรับไม่ได้ “ไม่ อรไม่ยอมเลิก อรจะไม่ให้นะไปมีความสุขกับมัน”
       “ถึงไม่มีปิ่น ผมก็ต้องเลิกกับอร ผมเหนื่อยที่จะทำเพื่ออร เหนื่อยกับสิ่งที่อรเรียกร้อง เพราะผมไม่มีจะให้ มรดกในพินัยกรรมก็ไม่มีชื่อผม มันเป็นเรื่องโกหก” ทรรศนะสารภาพ
       อรสอางค์ช็อกอีกรอบ ตบหน้าทรรศนะอีกฉาด “นี่นะกับคุณน้ารวมหัวกันหลอกอรหรือ”
       “ถือว่าเราต่างคนต่างโกหกก็แล้วกัน จะได้ไม่มีใครติดค้างใคร”
       ทรรศนะเดินหนี อรสอางค์ทรุดลงไปที่พื้นกำมือแน่นด้วยความคับแค้นใจ
       “นังปิ่นอนงค์! นังตัวมาร!”
       
       คืนนั้นตรงสวนนอกเรือนใหญ่เสี่ยตงยิ้มแย้มดีใจ “ท่านปลัดจะช่วยผลักดันให้ผมได้โครงการสร้างถนนเหรอ”
       อรสอางค์นั่งที่เก้าอี้รับแขก “คุณพ่อพูดจากปากเองเลยค่ะ เพราะอรไปเล่าให้คุณพ่อฟังว่าเสี่ยต้อนรับอรอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง”
       เสี่ยตงรีบถลาไปนั่งข้างอรสอางค์อย่างพินอบพิเทา “ถ้าผมชนะประมูลเมื่อไหร่ รับรองจะสมนาคุณท่านอย่างงาม”
       “คุณพ่อไม่รับค่ะ ให้อรรับแทน”
       เสี่ยตงถามแบบเกรงอกเกรงใจ “แล้วคุณอร เออ อยากได้ที่ตัวเลขเท่าไหร่”
       “อรไม่เอาเงิน แต่อรต้องการชีวิตคนๆ หนึ่ง”
       
       เสี่ยตงตกใจ “จะให้ผมฆ่าใคร”

--------------------------------------------------

 ค่ำคืนนั้น ครองสุขสวมชุดนอนนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง หันขวับมาหาเสี่ยตงที่นอนเปลือยท่อนอกรออยู่
       
       “ฆ่านังปิ่น!” ครองสุขงงรีบลุกไปหาเสี่ยตง “ทำไม”
       “ผู้หญิงแค้นผู้หญิง จะมีเรื่องอะไร้ ถ้าไม่ใช่เรื่องหึงหวง”
       ครองสุขกลอกตาไปมานึกถึงทรรศนะ “แล้วเสี่ยจะยอมรับข้อเสนอของอรสอางค์หรือเปล่า”
       “ใครๆ ก็อยากประมูลโครงการนี้ ไม่เอาก็โง่”
       “ท่าทางไอ้ใหญ่มันจะหลงใหลนังปิ่นมาก ถ้าเราจับนังปิ่นมาเป็นเหยื่อล่อไอ้ใหญ่ จากนั้นก็ฆ่ามันทั้งคู่ เสี่ยก็ได้ทั้งงานได้ทั้งเงินมรดก รวยกันไม่รู้เรื่อง”
       เสี่ยตงหัวเราะชอบใจ “จับคนสุ่มสี่สุ่มห้าระวังมันจะตลบหลังแจ้งตำรวจเอานะ”
       ครองสุขแสยะยิ้ม “ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน”
       
       ทรรศนะเดินเมาๆ เซไปเซมา แล้วล้มถลาไปที่พื้น ครองสุขในชุดนอนรีบเข้ามาประคอง
       “ตานะ ตายแล้ว นี่ทำไมดื่มหนักขนาดนี้ มานั่งตรงนี้ก่อน” ครองสุขประคองทรรศนะไปนั่งที่โซฟา 
       ทรรศนะจับมือครองสุข “ผมอยากเลิกกับอร ผมทนไม่ไหวแล้ว”
       “อยากเลิกกับเมีย เพื่อไปคบกับนังปิ่นใช่หรือเปล่า”
       ทรรศนะพยักหน้าร้องไห้เหมือนเด็กๆ “มีแต่ปิ่นที่เข้าใจผม ผมรักปิ่น รักจริงๆ”
       “ก็ได้ ถ้างั้นก็นัดมันมาที่ไร่ น้าจะเกลี่ยกล่อมมันเอง ปิ่นมันเป็นคนหัวอ่อน นังปิ่นมันเคยมีใจให้นะ ไม่ยากหรอก”
       ทรรศนะหนักใจ “แล้วอร”
       “คนเย่อหยิ่งอย่างอรสอางค์ มีเหรอจะยอมเป็นเมียหลวงเอาเงินตบหน้ามันไปสักก้อน ขี้คร้านจะยอมไปง่ายๆ”
       ทรรศนะสีหน้าไม่สบายใจ
       “ของทุกอย่างบนโลก ถ้าเราอยากได้ก็ต้องแย่งมา เชื่อฝีมือน้า นัดปิ่นอนงค์ออกมาเจอน้าที่กระท่อมท้ายไร่ แต่อย่าให้ไอ้จอมมันมารู้เห็น ไอ้นี่มันหลงรักปิ่นอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวจะยุ่ง”
       
       ยามเช้าวันต่อมา ใหญ่ยืนเครียดที่ระเบียง ขณะที่ปลอดนั่งเซ็ง ปานเทพอยู่ด้วย สามคนอยู่ที่บ้านพักที่เหมือง
       “ป้าอุ่นตาย เป็นฝีมือคุณนายแน่ ไอ้จอมเป็นสมุนคุณนายไปแล้ว มันเป็นตัวล่อผมไปอยู่ในที่ป้าอุ่นตาย”
       “ถ้าไม่มีนังครองสุขสักคน ทุกอย่างก็จบ เอาอย่างนี้ ผมจะฆ่านังครองสุขเอง ผมยอมติดคุก” ปลอดกร้าว
       ใหญ่ยกมือไหว้ปลอด “อาทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ ผมเป็นผู้ร้ายคนเดียวก็เกินพอแล้วถ้าหมดทางหลังชนฝา ผมจะฆ่ามันด้วยมือของผมเอง
       “คุณใหญ่ไม่ต้อง ผมทำเอง”
       “พอๆ ... หยุดทั้งคู่เลย บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะครับ จะเล่นงานคุณนายก็ต้องหาพยานหลักฐานมาให้ได้แล้วให้ศาลตัดสินลงโทษ ไอ้คุณใหญ่ ชั้นไหว้แกล่ะ” ปานเทพไหว้จริงๆ “ตอนนี้ช่วยเก็บตัวอยู่นิ่งๆ ก่อน เดี๋ยวจะเพลี่ยงพล้ำนังคุณนายมันอีก”
       ปานเทพหน้าเครียดดูเอาการเอางานสุดๆ ปลอดกะใหญ่ ครุ่นคิดตาม
       
       ที่ไร่ไพศาลเวลาเดียวกัน คนงานมุงดู จอม เปี๊ยก หวาน และน้อย ยืนทะเลาะกัน เปี๊ยกชี้หน้าจอม ด่าวุ่นวาย หวานไม่พอใจ
       “ทำอย่างนี้มันแกล้งกันนี่หว่า จะแยกชั้นไปอยู่คอกม้า ให้ไอ้เปี๊ยกไปคอกแพะได้ยังไง ชั้นทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ยังไม่ถูกมันปล้ำเป็นเมียด้วยซ้ำ”
       จอมขึ้นเสียง “ชั้นเป็นหัวหน้า ต้องเชื่อฟังชั้น ไม่อย่างนั้นชั้นรายงานคุณนายแน่”
       “หนูก็ไม่ยอม ดูแลที่เรือนใหญ่ก็เหนื่อยรากเลือดแล้ว จะให้มาดูโรงอาหารคนงานอีก” น้อยบ่นอุบ
       “ก็ป้าอุ่นไม่อยู่แล้วนี่ ช่วยๆ กันไปก่อน เห็นหลบมานินทาเรื่องชาวบ้านอยู่แถวนี้ได้ทุกวัน” จอมแดกดัน
       เปี๊ยกโมโหเขวี้ยงแก้วโลหะใส่โต๊ะหน้าจอม โดนจานโลหะดังเพล้ง
       ครองสุขเข้ามา ทุกคนหยุดกึก ครองสุขชี้กราดใส่กลุ่มเปี๊ยก
       “หยุดนะ หยุดกัดกันได้แล้ว ต่อไปนี้ถ้าใครก่อเรื่องทะเลาะวิวาท ฉันจะไม่เอาไว้ จอมจัดการไล่ออกได้เลย”
       เปี๊ยก หวาน น้อย ไม่พอใจ เปี๊ยกมองจ้องหน้าจอม ก่อนจะรีบแยกตัวไป บรรดาเหล่าคนงานแยกย้ายกันไป
       “จอม วันนี้แกเข้าเมืองไปซื้อของให้ฉันที จดรายการให้แล้วซื้อมาให้ครบล่ะ”
       “ครับ คุณนาย”
       ครองสุขยิ้มๆ แล้วออกไป จอมดึงกระดาษมาดู รายการยาวเฟื้อยต้องเสียเวลาซื้อนานแน่
       
       ขณะที่ปิ่นอนงค์ซึ่งยังสวมชุดดำไว้ทุกข์ นั่งรอรถที่ศาลารอรถเมล์หน้าตลาด ในมือหิ้วตะกร้ากับข้าว จะไปวัดมีดอกไม้ธูปเทียนอยู่ข้างบนวางที่พื้นตรงหน้า เสียงโทรศัพท์ดัง
       ปิ่นอนงค์ดูหน้าจอ “คุณนะ” กดรับสาย
       ทรรศนะโทร.มาจากไร่ไพศาล “ปิ่น พี่ไม่ไหวแล้ว ปิ่นมาหาพี่หน่อยได้มั้ย อรเขาหาเรื่องพี่ไม่เว้นแต่ละวัน จนพี่อยากจะตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป”
       ปิ่นอนงค์เหนื่อยหน่าย “ผัวเมียกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน คุณนะต้องอดทนนะคะ”
       “แต่พี่อยากเจอหน้าปิ่นเป็นครั้งสุดท้าย พี่รับรองว่าพี่จะไม่รบกวนปิ่นอีก”
       ปิ่นอนงค์ตกใจกลัวทรรศนะฆ่าตัวตาย “ใจเย็นๆคุณนะ อย่าเพิ่งคิดสั้น คุณนะจะให้ปิ่นไปหาที่ไหนคะ”
       
       ทรรศนะเดินเร่งรีบจะไปขึ้นรถกอล์ฟ อรสอางค์โผล่มายืนดักที่หน้าเรือนใหญ่
       “คุณนะ จะไปไหนคะ”
       ทรรศนะชะงัก หันไปมองอรสอางค์ “ผมจะไปดูคนงานหน่อย เดี๋ยวมา”
       “อรไปด้วย”
       “คุณจะไปทำไม ผม ... จะไปดูเค้าทำปุ๋ยคอก เหม็นจะตาย คุณรออยู่ที่นี่แหละ”
       ทรรศนะรีบขึ้นรถ ขยับจะออกรถ อรสอางค์ยิ้มเจ้าเล่ห์ตั้งใจก้าวเท้าพลาดตกลงมาจากพื้นเรือนใหญ่
       รถกอล์ฟเคลื่อนไปเล็กน้อย อรสอางค์ร้อง “โอ๊ย ...”
       ทรรศนะตกใจหันไปมอง เห็นอรสอางค์นั่งกุมข้อเท้าร้อง โอดโอย
       “อู๊ย ... ปวดจังเลยค่ะ ขาอร จะหักรึเปล่าก็ไม่รู้”
       ทรรศนะรีบลงจากรถมาประคองอรสอางค์ลุกยืน “โอ๊ย ... เบาๆ ค่ะ...”
       ทรรศนะเซ็งเสียเวลา “เดินยังไงไม่ระวัง เดี๋ยวผมพาไปพักที่ห้อง...”
       ทรรศนะประคองอรสอางค์เดินไป “ช้าๆ ค่ะ อรเจ็บ คงเดินไม่ไหวหรอก”
       ทรรศนะตัดสินใจช้อนอุ้ม อรสอางค์รีบกอดคอทรรศนะ ซบหน้ากับอก
       อรสอางค์หันไปยิ้มกับครองสุขที่แอบอยู่อีกมุม แล้วออเซาะทรรศนะต่อ
       
       ด้านปิ่นอนงค์นั่งเหลียวหาทรรศนะไปมา พลางดูนาฬิกาข้อมือ เห็นขากับเท้าก้าวเดินเอี๊ยดอ๊าดบนพื้นกระท่อมใกล้เข้ามา
       ปิ่นอนงค์หันไปมอง เป็นเสี่ยตง สะดุ้งลุกพรวด “เสี่ย”
       “จ้ะ เสี่ยเอง เสี่ยไม่คิดเลยว่าหนูปิ่นคนสวยจะจำเสี่ยได้ สงสัยเราสองคนจะมีวาสนาต่อกัน ถึงได้กลับมาเจอกันอีก”
       เสี่ยตงมองหน้าหื่น ปิ่นอนงค์กลัว ถอยหลัง แล้วกลับตัววิ่งหนี ปิ่นอนงค์วิ่งไป เหลียวมาดูเสี่ยตง หันไปอีกทีชนอกสมุน
       สมุนเสี่ยสองคนจับแขนปิ่นอนงค์คนละข้าง ลากปิ่นอนงค์ไปหาเสี่ยตง
       ปิ่นอนงค์ดิ้นรนเต็มที่ “ปล่อย ปล่อยชั้น ช่วยด้วย คุณนะ ช่วยปิ่นด้วย ปล่อยๆ”
       
       ทรรศนะเท้าโต๊ะทำงาน ต่อหน้าครองสุข สีหน้าโกรธ และตกใจ “อะไรนะครับ คุณน้าให้เสี่ยตงจับปิ่นทำไม ไหนบอกว่าจะพูด เกลี้ยกล่อมปิ่นดีๆ ไงครับ”
       ครองสุขรีบกล่อมทรรศนะ “อย่าโวยวายได้มั้ยตานะ เราต้องเอาปิ่นอนงค์ล่อไอ้ใหญ่ให้มาติดกับซะก่อน แล้วก็กำจัดมันซะ อย่าลืมสิมันเป็นทายาทของคุณไพศาล มันเป็นผัวของนังปิ่น ถ้ามันยังอยู่ มันต้องกลับมาแย่งทุกอย่างไปจากนะ”
       ทรรศนะครุ่นคิด นั่งบนเก้าอี้ “ไอ้ใหญ่มันจะทำอะไรได้ โผล่มาก็โดนตำรวจจับอยู่ดี”
       “อย่าไปประมาทมันเชียว มันมีไอ้ปลอดกับลูกน้องเป็นกำลังสนับสนุน มีไอ้ปานเป็นทนายคอยแก้คดีให้ ถ้ามันหลุดคดีล่ะ มันต้องเอาคืน ฆ่าล้างครัวเราแน่”
       ครองสุขเดินเข้าไปหา พยายามล้างสมอง “ลองคิดดูนะ ถ้าไอ้ใหญ่ตาย นะจะได้ทั้งนังปิ่น ทั้งสมบัติส่วนของมัน เพราะนังปิ่นเป็นเมียจดทะเบียนสมรสของไอ้ใหญ่ น้าจะให้นังปิ่นเป็นเมียนะอีกคน ไม่ดีเหรอ”
       ทรรศนะคิดวุ่นวายสับสนหนัก ครองสุขยิ้มร้าย
       
       สองคนไม่รู้ว่าอรสอางค์อยู่หน้าห้อง แอบเอาหูแนบฟังที่ประตู สีหน้าอรสอางค์ ช็อกสุดขีด

--------------------------------------------------------------------

 เสี่ยตงยืนไดร์ฟกอล์ฟฝึกข้อมืออยู่ อรสอางค์ปรี่เข้ามายืนขวางหน้า เสี่ยตงจะตีรีบหยุดชะงัก
       
       “คุณอร ระวังนะครับ มายืนตรงนี้ได้ยังไง นี่ถ้าผมตีโดนคุณอรท่านปลัดมีหวังเอาผมตาย”
       “ถ้าเกรงใจคุณพ่อ ก็น่าจะเกรงใจฉันด้วย เสี่ยรับปากจะช่วยฉันฆ่านังปิ่น แต่ทำไมยังไม่ทำ”
       เสี่ยตงมองซ้ายขวา ลดเสียงลง “ผมก็อยากช่วยคุณอร แต่มันต้องรอจังหวะดีๆ ก่อน คุณอรใจเย็นอีกนิดนะครับ แล้วผมจะจัดการให้ รับรองว่าเนียน”
       อรสอางค์หงุดหงิด ไม่ทันใจ “ถ้างั้น เรื่องงานประมูลก็รอไปก่อนแล้วกัน”
       อรสอางค์เดินลิ่วไป เสี่ยตงเจ็บใจหวดลูกกอล์ฟไปอีกทาง
       
       อรสอางค์เดินหน้านิ่งเข้ามาที่กระท่อมท้ายไร่ สมุนเสี่ยสะกิดชี้ชวนกันมองมา สมุนคนหนึ่งเดินไปหา “พวกแกจะไปไหนก็ไป” อรสอางค์สั่ง
       “เสี่ยให้พวกเราเฝ้าผู้หญิงในกระท่อม คงไปไหนไม่ได้หรอกครับ”
       “พ่อชั้นให้งานเสี่ยตงทำ พวกแกอย่ามาพูดมาก บอกให้ไปก็ไป ชั้นจะคุยกับผู้หญิงที่ถูกขัง เอากุญแจมา”
       สมุนสบตากันเลิ่กลั่ก ในที่สุดก็ล้วงกุญแจให้
       อรสอางค์รับกุญแจมาถือ จ้องหน้าเหล่าสมุนเขม็ง
       
       ครู่ต่อมาปิ่นอนงค์ถูกมัดมือไพล่หลัง มีสมุนช่วยกันลากมาแทบเท้าอรสอางค์ ตรงริมลำธาร
       อรสอางค์จิกผมดึงขึ้นหน้าหงาย แล้วจับกดน้ำสุดแรง ผืนน้ำกระจาย ปิ่นอนงค์ไอ สำลักน้ำไปมา
       ปิ่นอนงค์คุกเข่าอยู่ริมลำธาร “คุณ ... คุณอร .. ทำปิ่นทำไม ... ปิ่น ...”
       “หยุดตอแหลได้แล้วนังปิ่น แกไม่มีวันแย่งคุณนะไปจากชั้นได้ แกจะได้ตายสภาพเดียวกับแม่แก ชั้นจะส่งแกไปหาแม่ นังปิ่น”
       อรสอางค์จับหัวปิ่นอนงค์กดน้ำ ปิ่นอนงค์ดิ้นไปมา ผุดหน้าขึ้นมาหายใจ แต่โดนกดจมน้ำซ้ำไปมา ปิ่นอนงค์หมดแรง
       ใต้ผืนน้ำเวลานั้นปิ่นอนงค์ลมหายใจรวยริน เป็นฟองผุดพราย ปิ่นอนงค์กะพริบตาช้าๆ ลงจนหลับตา ภาพใกล้ชิดของปิ่นอนงค์กับใหญ่ยามหวานสลับเข้ามามาในภวังค์
       ปิ่นอนงค์หน้าหงายน้ำกระจายตาค้าง อ้าปากงับเอาอากาศ
       สมุนเสี่ยตง ล็อกอรสอางค์ลากขึ้นฝั่ง สมุนอีกคนจับแขนปิ่นอนงค์ลากไปที่ฝั่ง ปิ่นอนงค์นั่งตัวเอียงตะแคงไอสำลักไปมา
       ครองสุขยืนเครียด “ทำบ้าอะไรของเธอ อยากจะติดคุกเหรอ”
       “ติดคุกก็ติด ให้มันรู้กันไป คุณน้าหลอกอร” ชี้ปิ่นอนงค์ “รับปากว่าจะฆ่ามันทิ้ง แต่กลับจะเอามันมาเป็นเมียคุณนะอีกคน อรไม่ยอมๆ ...”
       ครองสุขเหลือบมองปิ่นอนงค์ กลัวว่าจะได้ยิน แต่ปิ่นอนงค์ยังไอสำลักน้ำอยู่ไม่ทันได้ยิน
       ครองสุขลากแขนอรสอางค์ออกไป หันมาด่าลูกน้องเสี่ย
       “ทีหลังอย่าทำอะไรนอกคำสั่งอีก ไม่งั้นฉันจะฟ้องเสี่ย พาตัวนังปิ่นกลับไป”
       ปิ่นอนงค์หมดแรง หอบ เหนื่อย ถูกลากกลับไปอีก
       
       ที่ข้างเรือนใหญ่ อรสอางค์นั่งหน้าเครียด ครองสุขเดินจิบน้ำเข้ามานั่งร่วมโต๊ะ
       “นี่ยังคิดว่าจะให้นังปิ่นมาเป็นเมียตานะจริงๆเหรอ”
       “ก็อรได้ยินกับหู”
       “มันเป็นแผนหลอกให้ไอ้ใหญ่ออกมาหานังปิ่น แล้วเราก็กำจัดมันทิ้งทั้งคู่ ไอ้ใหญ่มันรักนังปิ่นจะตาย มันไม่ยอมให้นังปิ่นเป็นเมียตานะหรอก”
       อรสอางค์จ้องครองสุขตาขวาง “แน่ใจนะคะว่าไม่ได้โกหก”
       ครองสุขกระแทกแก้วไม่พอใจ “อุตส่าห์ไปเรียนเมืองนอกเมืองนา ไม่ได้ช่วยให้ฉลาดขึ้นมาเลยหรือไง เธอต้องหัดมีเล่ห์เหลี่ยมซะบ้าง ไม่งั้นจะเอาผัวไว้ไม่อยู่ ต้องให้สอนอยู่เรื่อย”
       ครองสุขเชิดใส่ อรสอางค์จำยอม “แล้วข่าว ลับลวงพรางของคุณน้า มันจะถึงหูไอ้ใหญ่ได้ไง”
       “ปัดโธ่...เธอไม่รู้เหรอ ไอ้ใหญ่มันมีหมารับใช้อยู่ในไร่นี้ เดี๋ยวก็ต้องคาบข่าวไปบอกมันเองแหละ”
       
       ครองสุขยิ้มเจ้าเล่ห์

----------------------------------------------
       
       โปรดติดตามอ่าน "ปิ่นอนงค์" ตอนต่อไป


No comments:

Post a Comment