Sunday, July 22, 2012

ดูละครปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 Pin Anong 偷心俏冤家 20

>> Watch online ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 Pin Anong (Chinese Sub)
ปิ่นอนงค์ ตอนที่ 20 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

พอลูกน้อง 2 คน เข้ามารายงานเรื่องทรรศนะหายตัวไป ครองสุขตกใจตาค้าง ลุกยืนพรวด ถามเร็วปรื๋อ        
       “อะไรนะ ตานะหายไป หายไปไหน”
       ลูกน้องคนแรกเอ่ยขึ้น “ผมเจอกระเป๋าเงินของคุณนะตกอยู่ตรงทางไปน้ำตก”
       ครองสุขนิ่งนึก “จอมมันก็ไม่อยู่ด้วย” ในที่สุดก็นึกออก “โทร.เรียกไอ้เจิดไอ้ก้านเดี๋ยวนี้เลย”
       
       ที่ริมน้ำตกเวลานั้น เสี่ยตงเหยียบยอดอกทรรศนะ ด่าทอต่อว่า
       “ปลิ้นปล้อนกันทั้งครอบครัว อยากนั่งรถเข็นมากใช่มั้ย ชั้นจะสงเคราะห์ให้”






       เสี่ยตงพยายามเล็งปืนไปที่เท้าทรรศนะ
       แต่ทรรศนะพลิกตัวรวบขาเสี่ยตงก่อน เสี่ยตงยิงเปรี้ยง ลูกปืนพลาด เสี่ยถลาล้มลงไป
       ทรรศนะขึ้นคร่อมเสี่ยตง ยื้อแย่งปืนกัน สองคนกลิ้งอยู่บนพื้น ปืนกระเด็นไป
       ทรรศนะแย่งปืนได้ รีบหยิบปืนลุกเล็งใส่เสี่ยตง มือไม้สั่น
       เสี่ยตงพยายามลุก เดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าหา
       “หนีไปซะ อย่าบังคับผม ผมไม่อยากฆ่าคน อย่ากดดันผม” ทรรศนะขึ้นเสียง
       “ยิง ยิงเลย แกจะได้ติดคุก ยิงสิ ยิง”
       ทรรศนะหลับหู หลับตา เหนี่ยวไกดังปัง ลูกปืนเฉี่ยวขาเสี่ยตงจุดข้างน่อง เลือดไหลเป็นทาง
       ปิ่นอนงค์โผล่มาจากด้านหลังตกใจมาก มองทรรศนะที่เดินได้ปกติ ทรรศนะก็ตกใจที่ปิ่นอนงค์จับได้
       ปิ่นอนงค์มองเสี่ยตงที่อยู่ข้างหน้าอาการงวยงง จังหวะนั้นใหญ่โผล่มาทางด้านหลังทรรศนะ เอาไม้ฟาดตรงท้ายทอย ทรรศนะทรุดลงไปกองกับพื้น สลบเหมือด
       เสียงรถยนต์กระบะของครองสุขและลูกน้องราว 5 คน ดังเข้ามา ใหญ่พูดไปเอาผ้าที่โพกหัว มาพันหน้าพรางตัว
       “ปิ่นเร็ว พาเสี่ยหนีไปก่อน รู้นะที่ไหน”
       “แล้วคุณใหญ่...”
       “ไม่ต้องถาม รีบไป”
       ใหญ่พุ่งไปหยิบปืนข้างทรรศนะ มาเหน็บหลัง เห็นชัดว่าใหญ่ก็มีปืนอีกกระบอก แต่ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย
       ใหญ่ยืนกระชับไม้มั่นในมือ รถครองสุขวิ่งเข้ามาจอด ครองสุขเห็นทรรศนะร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
       “อ๊าย...” เหล่าสมุน 5 คนกระโดดลงเข้าไปล้อมใหญ่
       ใหญ่ตกอยู่ในวงล้อม “จับเป็นมัน ฉันอยากรู้ว่าใครสั่งมันมา”
       ครองสุขประกาศกร้าว มาดเจ้าแม่เต็มองค์
       
       ปิ่นอนงค์จับมือเสี่ยตงพาดไหล่ อีกมือจับขอบกางเกงตรงกระเบนเหน็บ พาเสี่ยตงลุยลำธาร ฝ่าพงหญ้าหนีมา
       จังหวะต่อมาปิ่นอนงค์ดึงร่างเสี่ยตงให้ข้ามโขดหินและขอนไม้ จนเสี่ยตงทำท่าหมดแรงทิ้งตัวบนพื้น “แข็งใจหน่อย เสี่ยตง เราต้องรีบไป ข้ามภูเขาเล็กๆ ข้างหน้าก็ถึงแล้ว” ปิ่นอนงค์ปลุกปลอบ
       “ชั้นเคยคิดร้ายกับเธอกับคุณใหญ่ เคยปล้ำเธอ เคยคิดจะฆ่าพวกเธอ มาช่วยชั้นทำไม” เสี่ยตงสงสัย
       “ถือว่าไม่ติดค้างบุญคุณต่อกัน เสี่ยต้องรักษาชีวิตเอาไว้ เพื่อเป็นพยานให้พวกเรา เอาตัวคุณนายมาชดใช้กรรมให้ได้”
       “อีคุณนายมันก็ต้องซัดทอดชั้น ชั้นยอมตายดีกว่าติดคุก ชั้นไม่โง่ช่วยพวกเธอหรอก”
       ปิ่นอนงค์ส่ายหน้าระอาใจ “ไม่เป็นไร ถึงไม่อยากช่วย แต่ก็ต้องรีบไปด้วยกัน ก่อนที่พวกมันจะตามมาถึง มาค่ะปิ่นช่วย”
       ปิ่นอนงค์จับข้อมือเสี่ยตงดึงให้ลุกยืน เตรียมประคอง แต่ร่างเสี่ยตงกลับร่วงทรุดลงไปอีกเสี่ยตงเอามือจับขาตัวเอง เห็นเลือดไหลซึมออกมา ร้องครวญคราง
       “ไม่ไหว เจ็บ เจ็บจริงๆ”
       ปิ่นอนงค์มองแผล หยิบมีดพกที่ใหญ่ให้ไว้ติดตัวออกมา เสี่ยตงสะดุ้งหน้าเสีย
       ปิ่นอนงค์กรีดเสื้อตรงขอบเอวตัดออกมา หยิบผ้าเช็ดหน้า มาพับปิดแผล เอาผ้าที่ตัดมาพันรัดให้เสี่ยอย่างจริงจัง
       เสี่ยตงนิ่งมอง ครุ่นคิด อึ้งในใจกับความแสนดี
       
       เหตุการณ์ที่ริมน้ำตกยังตะลุมบอนกันอยู่ โดยใหญ่ซึ่งปิดหน้าปิดตาใช้ไม้เป็นอาวุธ ต่อสู้กับสมุนครองสุขสามสี่กระบวน
       เจิดเสียท่าถูกตีสีข้างร่างกระเด็นไป ใหญ่ตีเฉียงกะลำตัว ก้านอาศัยจังหวะที่ใหญ่พัวพันกับเจิด
       กระโดดถีบรับที่มือใหญ่ ไม้กระเด็น สมุนคนอื่นเข้าล็อกแขนใหญ่
       ใหญ่ดิ้นรนไปติดริมโตรกน้ำตก สมุนถีบขาพับหลังเข่า ใหญ่ทรุดลงคุกเข่า
       เจิดย่างสามขุมเข้าหาใหญ่ ขยุ้มผ้าขาวม้าเตรียมจะกระชาก
       จังหวะนั้นถวิลซึ่งพรางหน้าเช่นกัน กระโดดถีบเจิดกระเด็น
       ใหญ่ถีบตัวเองกระโดดตีลังกาหลัง ลงน้ำมาดอย่างเท่ สมุนครองสุขชักปืน
       ถวิลจ้องอยู่เตะมือจนปืนหล่น อีกคนโดนถวิลใช้สันมือสับคอ ทรุดฮวบ
       ก้านจ้องอยู่สบโอกาสเตะเสยหน้าถวิลสลบเหมือด ก้านเปิดหน้าถวิลให้ครองสุขดู
       “ไอ้หวิน แกเองหรือ” ครองสุขตาค้าง
       
       ไม่นานหลังจากนั้น ครองสุขเอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าทรรศนะไปมา ทรรศนะได้สติจับท้ายทอยหน้าเหยเก
       น้อยถือขันน้ำอยู่ ลุ้นฟังถ้อยความ “วางขัน ไสหัวไป นังน้อย” ครองสุขตวาด
       น้อยรีบวางขัน วิ่งแจ้นออกไป
       “คุณน้าครับ ปิ่นหายไปไหน ปิ่นเป็นอะไรรึเปล่า”
       ทรรศนะเหลียวซ้าย แลขวามองหา
       “น้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เห็นมันแม้แต่เงา”
       “ปิ่นเค้ารู้ความจริงแล้ว ว่าผมโกหก ผมไม่น่าเชื่อคุณน้าเลย ปิ่นต้องเกลียดผมแน่เลย”
       ทรรศนะมองครองสุขงอนๆ นึกถึงตอนที่ครองสุขวางแผนให้แกล้งเดินไม่ได้
       
       วันนั้นที่ห้องคนป่วยโรงพยาบาล ครองสุขก้มโน้มตัว ลูบหัวทรรศนะ กระซิบเบาๆ
       “เป็นโอกาสทองของนะแล้ว นะต้องแกล้งทำเป็นเดินไม่ได้ปิ่นมันจะได้สงสาร น้าจะให้มันมาดูแลนะอย่างใกล้ชิด”
       ทรรศนะสบตาครองสุข อาการลังเล
       
       ทรรศนะดึงตัวเองกลับมา ยังปัจจุบัน ครองสุข งอน ค้อนทรรศนะ
       “น้าหวังดี เห็นนะนอนเจ็บอยู่บนเตียง น่าก็สงสาร อยากให้นะสมหวัง มาโทษน้าอีกแล้ว”
       ทรรศนะนึกขึ้นได้รีบลุกนั่ง หน้าตื่น “ไอ้เสี่ย ไอ้เสี่ยตงเป็นคนมาจี้จับผมไป มันบอกจะฆ่าพวกเราแก้แค้น”
       ครองสุขตาค้าง “ห๊า...ไอ้เสี่ย มันยังไม่ตายอีกเหรอ ถ้าอย่างนั้น มัน...มันต้อง” ครองสุขครุ่นคิด “เป็นคนจับนังปิ่นไปแหงๆ”
       “คุณน้า คุณน้าต้องช่วยตามปิ่นกลับมาให้ผมนะครับ”
       ยินเสียงประตูดังเอี๊ยดอ๊าด ครองสุขสะดุ้ง เหลียวขวับ พุ่งไปที่ประตู ประตูเปิด “ใคร อีน้อย แกมาแอบฟังชั้นเหรอ”
       ทัศนีย์เข้ามาเผชิญหน้าซึมๆ “นีเองค่ะ คุณน้า นีเป็นห่วงพี่นะ เลยมาเยี่ยม”
       ครองสุขมองทัศนีย์ที่เดินเข้าไปหาทรรศนะ เห็นกิริยาแปลกๆ หลายครั้งเข้า ครองสุขชักสงสัยทัศนีย์ขึ้นมาแล้ว
       
       ทัศนีย์เก็บเสื้อผ้าสามสี่ตัวยัดๆๆ ใส่กระเป๋าสะพาย เก็บไปก็บ่นไป
       “พี่นะร่วมมือกับคุณน้า เสี่ยตงกลับมาแก้แค้น มันจะฆ่าล้างครัวอยู่นี่ไม่รอดแน่”
       
       ทัศนีย์สะพายกระเป๋า พุ่งไปเปิดประตูห้อง ชะโงกหน้าเหลียวซ้าย แลขวา เห็นว่าทางโล่งปลอดคน
-----------------------------------------------------------------------------------------


เช้าวันต่อมา จินตนากับเพื่อนหมอหญิงคนหนึ่งอยู่ที่หน้ากระท่อมป้าทอง สองสาวหันไปมองที่ในกระท่อม ในขณะที่จินตนาส่งกระเป๋ายา อุปกรณ์ให้ พลางขอบคุณ        
       “ขอบใจมากนะเพื่อน”
       จินตนาตบไหล่เพื่อนหมอเบาๆ
       “รับรองเป็นความลับชั้นสุดยอด” เพื่อนหมอบอกยิ้มๆ
       จากนั้นหมอสาว ก็ขึ้นรถ ATV ขับออกไป ปิ่นอนงค์ออกมากระท่อมพอดี
       “ขอบใจมากจิน”
       “ก็บอกแล้ว เพื่อนต้องช่วยเพื่อน”
       จินตนาจับไหล่ปิ่นอนงค์ เมียงมองสำรวจ ปิ่นอนงค์งงๆ
       “หมอเค้าทักว่าสีหน้าเธอไม่ปกติว่างๆ ไปให้หมอตรวจร่างกายหน่อยก็ดีนะปิ่น”
       “พักนี้ก็เพลียๆ เหมือนกันเราอาจจะเครียดมากไปก็ได้” ปิ่นอนงค์เหลียวดูไปมา “เอ๊ะ...ป่านนี้แล้วทำไมคุณใหญ่ยังไม่มาตามนัดอีก”
       จินตนาสะกิดแขน ชี้ไปอีกทาง ปิ่นอนงค์เหลียวมองตาม
       เห็นชายชาวบ้านที่เคยปลอมเป็นใหญ่ในวันที่ถูกจอมไล่ล่า โอบเอวประคองใหญ่เข้ามา ตัวเปียกโชก
       
       ถวิลถูกมัดอยู่กับเสาในโรงนาเก็บฟาง สมุนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ
       ครองสุขเข้าไปพูดข้างหูถวิล “ถ้าไม่อยากตาย บอกชั้นมาไอ้ตงมันอยู่ที่ไหน มันบอกอะไรแกบ้าง”
       ถวิลยิ้มเยาะ “ไม่รู้ อี...”
       ครองสุขตบหน้าถวิล ถอยออกมาสั่งสมุน “ซ้อมจนกว่ามันจะพูด”
       สมุนตั้งหลักเตรียมตัวซ้อม จอมวิ่งหน้าตื่นเข้ามา ตะโกนก้อง
       “เฮ้ย...หยุด ใครแตะต้องพ่อกูก็ยิงกัน”
       จอม มองสมุน มองครองสุข “พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงคิดฆ่าตานะ ฉันจำเป็นจะต้องจับตัวไว้เพื่อขอให้นายหวินบอกที่ซ่อนของเสี่ยตง”
       จอมอาสา “ผมจะคุยกับพ่อเอง”
       ครองสุขยิ้ม “ก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้คิดทำร้ายนายหวินอยู่แล้ว ยังไงก็คนกันเอง”
       ว่าพลางครองสุขลูบแผงอกจอมให้ถวิลเห็น “ฉันจะรอคำตอบที่ห้องนอนเหมือนเคยนะจ๊ะจอม”
       ครองสุขเดินออกไป เจิด กะก้านตาม ครองสุขชะงักนิดหนึ่ง ส่งสายตาให้สัญญาณสมุนเป็นเชิงบอกให้จัดการเก็บถวิลเสีย!!
       ถวิลจ้องหน้าจอมอย่างผิดหวัง
       “เอ็งทำไมทำตัวแบบนี้ แค่มาเป็นหมารับใช้มันยังไม่พอยังเอาตัวไปบำรุงบำเรอมัน ไอ้สารเลว เอ็งมันจะทำตัวชั่วไปถึงไหน”
       “มันไม่ใช่อย่างที่พ่อเข้าใจ พ่อรีบบอกมาว่าเสี่ยตงมันอยู่ไหน”
       “เอ็งไม่ต้องมาถามอะไรข้า ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
       “พ่อ ผมอยากจะช่วยพ่อจริงๆ” จอมรำพัน
       “เอ็งฆ่าข้าได้เลย ไม่ต้องรอนังคุณนาย เอาเลยสิวะ”
       พ่อ ลูก สบตากันเครียด
       
       ในขณะที่ครองสุขนั่งทาเล็บอยู่ในห้องโถง ปิ่นอนงค์เดินกะเผลกเข้ามา ตัวเลอะโคลนไปหมด
       ครองสุขชะงัก เงยหน้ามอง
       “ดูสารรูปเข้า แกหายไปตะลอนที่ไหนมานังปิ่น ชั้นสั่งให้แกดูแลตานะให้ดี นี่อะไรกันตานะถูกไอ้ตงจับไป ถูกตีสลบไสลมาเกือบตาย”
       “ปิ่น...ปิ่นก็ถูกเสี่ยตงจับไปเหมือนกันค่ะ แต่ปิ่นหนีมาได้เพราะเสี่ยตงเจ็บหนัก โดนคุณนะยิง”
       ครองสุขลุกไปหา จับแขนปิ่นอนงค์เขย่าๆ “แกแน่ใจนะ ว่าแกไม่ได้โกหกชั้น”
       ทรรศนะได้ยินเสียงรีบเข้ามา น้อยตามติด ทรรศนะเอ่ยขึ้น
       “จริงๆครับ ผมยิงไอ้เสี่ยตงไปนัดหนึ่ง ไม่รู้ว่าโดนตรงไหน”
       ปิ่นอนงค์ไม่ยอมมองหน้าทรรศนะ ยังเคืองเรื่องที่โดนหลอกว่าเดินไม่ได้
       “ปิ่นขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
       ปิ่นอนงค์กะเผลกจะไป ทรรศนะรีบเข้าประคองแขนโอบเอว ปิ่นอนงค์รีบเบี่ยงตัวออก
       “ไม่ต้องค่ะ ให้น้อยพาไปก็ได้ เดี๋ยวคุณนะจะลื่นล้ม เดินไม่ได้อีก”
       ทรรศนะเจื่อนจ๋อย น้อยกระโดดแผล็วเข้าไปพยุงปิ่นอนงค์
       ทรรศนะมองตามไป ครองสุขเครียด
       
       จอมนำหน้าถวิลมา เดินระแวดระวังมาตรงริมรั้วที่มีต้นไม้ใหญ่รายรอบ
       “พ่อหนีไปซะ อย่ากลับมาที่ไร่ไพศาลอีก”
       “แล้วเอ็งจะเสียใจ ไอ้ลูกโง่ คุณนายมันเป็นคนใจคด เอารัดเอาเปรียบลูกน้อง เอ็งอยู่ที่ไร่ก็เคยเห็นมาตลอด แล้วทำไมยอมเป็นขี้ข้ามัน”
       “พ่อคิดว่าผมมีความสุขที่ได้ทำงานให้คุณนายหรือ แต่ผมต้องอดทนอยู่ เพื่อปิ่น”
       ถวิลอบรมต่อ “คนเราต้องอยู่เพื่อความถูกต้องเมื่อไหร่เอ็งจะเข้าใจวะ” ถวิลส่ายหน้าระอาใจ ถ่างลวดหนาม จะออกไป
       สมุน 5 คน โผล่ออกมาจากมุมต่างๆ ตัวหัวหน้าถือปืน ลูกน้องถือมีดปาดตาล สปาต้าร์ ทุกคนใส่โม่ง รุมล้อมจอม กะถวิล
       จอมตะโกนบอก “หนีพ่อ”
       แต่แล้วบรรดาหมู่มวล ร่วงไปทีละคน เป้าแรกที่มือคนถือปืนฟุบคาที่ ตัวหัวหน้าปืนกระเด็น จับมือตัวเองเลือดสาด บาดเจ็บสาหัส เหล่าลูกน้องเหวอ เสียงดังฟุบ พร้อมๆ กับมีดกระเด็นจากมือสมุนทุกตัวคน
       เหล่าสมุน เหลียวรอบตัวสายตาล่อกแล่ก แล้วเผ่นเข้าพงหญ้าหายหัวไป
       ใหญ่นั่งคาบก้านดอกหญ้าอยู่บนคบไม้ ส่องกล้องเล็งปืนแพนไปมาช้าๆ ก่อนจะเก็บปืนเอามาสะพายไหล่
       จอมถือปืนสอดส่องมองหา ถวิลอมยิ้มรู้ว่าเป็นใหญ่
       “จะมองหาไปทำไม เค้าไม่ยิงกบาลเอ็งก็บุญโขแล้ว”
       “ใครพ่อ พ่อทำงานให้ใคร”
       “เอ็งไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่าเขาเป็นคนดี”
       ถวิลมุดรั้วหายไป จอมสงสัย
       สีหน้าครองสุขยามนี้ ไม่พอใจมาก “ไอ้หวินมันหนีรอดไปได้หรือ”
       สมุนก้มหน้านิ่ง จอมเข้ามา “ผมเป็นคนปล่อยพ่อไปเอง ผมยินดีรับโทษทุกอย่าง”
       ครองสุขเหลือบตามองสมุน รู้กัน “เธอกตัญญูกับพ่อฉันเองก็เข้าใจ แต่พ่อเธอร่วมมือกับไอ้เสี่ยตงจะฆ่าฉัน”
       “ผมเชื่อว่าพ่อไม่รู้ไม่เห็นด้วย พ่อเองก็โดนตามฆ่าอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าพวกไหน”
       ครองสุขกลอกตา แต่งเรื่องให้ร้ายปานเทพ “ก็คงพวกไอ้ปานนั่นแหละ มันอาจแค้นเธอเรื่องไอ้ปลอดก็เลยเล่นงานพ่อเธอแทน ทำไมคนพวกนี้มันถึงร้ายกาจนักนะ มรดกทั้งหมดคุณไพศาลให้ฉันเอง พอแย่งไปไม่ได้ ก็จะฆ่าแกงกัน ขนาดนังปิ่นยังเกือบโดนลูกหลงไปด้วย”
       ครองสุขผุดแววตาเจ้าเล่ห์ จอมตกใจรีบออกจากห้อง เป็นห่วงปิ่นอนงค์
       ครองสุขหันมาด่ากราดลูกน้อง
       “มันน่าตัดเงินนัก สั่งอะไรเหลวตลอด”
       
       คืนนั้นสองคนอยู่ในห้องนอนปิ่นอนงค์ เปลี่ยนชุดกันแล้วเรียบร้อย
       ปิ่นอนงค์หันมาทางใหญ่ “คุณใหญ่ช่วยลุงหวินได้แล้วหรือคะ”
       “แล้วทางเธอล่ะ”
       “ทางปิ่นก็ราบรื่นดีค่ะ คุณนายเชื่อว่าปิ่นก็โดนเสี่ยตงจับไปด้วยเลยไม่สอบสวนอะไรมาก”
       ใหญ่มองปิ่นอนงค์ผ่านกระจกเงา “ดูหน้าตาเธออิ่มเอิบแจ่มใสเชียวนะ คงจะดีใจล่ะสิที่นายนะไม่ได้พิกลพิการไปจริงๆ”
       “คุณนะไม่พิการปิ่นก็ต้องดีใจสิคะ ขืนปิ่นเสียใจคงเป็นคนเลือดเย็นน่าดู”
       ใหญ่ลุกไปยืนเคียงข้างโต๊ะเครื่องแป้ง หาเรื่องเพราะหึง “พูดอย่างนี้ก็ว่าชั้นเป็นคนเลือดเย็นน่ะสิ”
       ปิ่นอนงค์ลุกงงๆ มองใหญ่ แล้วไปนั่งที่เตียงวัดอารมณ์ใหญ่
       “คุณใหญ่ไม่ใช่คนเลือดเย็นหรอกค่ะแต่เป็นคนเลือดร้อน”
       ใหญ่หันไปมองปิ่นอนงค์พาลเต็มที่ “นี่เธอหลอกด่าฉันหรือ”
       “เฮ้ย...ไม่ใช่อย่างนั้น...”
       ใหญ่ชี้หน้า “ขึ้นเฮ้ยกับชั้นเหรอ อยากมีเรื่องใช่มั้ยปิ่นอนงค์ ได้...ได้เลย”
       ใหญ่ทำฮึดฮัดถอดเสื้อเขวี้ยงทิ้ง จ้องปิ่นอนงค์เขม็ง
       “แล้วถอดเสื้อทำไมคะ” ปิ่นอนงค์แกล้งถาม
       “คงจะให้เธอเกาหลังให้มั้ง” ใหญ่ประชดส่งๆ ลอยหน้ากวนๆ
       ใหญ่พุ่งตัวกระโดดเข้ารวบตัวปิ่นอนงค์บนเตียง ปิ่นอนงค์รู้ทันลุกหลบ ใหญ่วืดหน้าคว่ำลงกับเตียง
       “ปิ่นไม่ตามใจคุณใหญ่หรอก เก่งแต่เอาเปรียบ”
       ปิ่นอนงค์วิ่งไปที่ประตูห้อง เปิดหนีออกไป
        
       ใหญ่ยิ้มขำๆ สุขใจอารมณ์ดีที่แกล้งปิ่นอนงค์ได้
------------------------------------------------------------------------


 ปิ่นอนงค์รีบปิดประตูลงอย่างโล่งใจ พอมองไปก็เห็นจอมเดินรี่มาตามทางสีหน้าเครียด จึงรีบเดินไปหาจอมเพื่อกันไม่ให้จอมมาที่ห้องเจอใหญ่ 
       
       จอมมาถึงตัวก็จับแขนปิ่นอนงค์แน่น “ตกใจหมดเลยที่ได้ยินมาว่าเสี่ยตงจับปิ่นไป”
       พร้อมกันนั้นจอมดึงปิ่นอนงค์เข้ามากอด “เราขอโทษที่ไม่ได้ดูแลปกป้องคุ้มครองปิ่น ต่อไปนี้เราจะไม่ให้พลาดอีก”
       ปิ่นอนงค์ไม่ทันตั้งตัวตกใจตัวแข็งทื่อ ระหว่างนั้นใหญ่แอบมองอยู่ที่ประตูแง้มๆ ดู
       ปิ่นอนงค์ได้สติดันตัวจอมออก จอมหน้าเจื่อนๆ ไป
       “ขอบใจที่จอมเป็นห่วงเรา เราเหนื่อยจังเลย จอมก็กลับไปพักผ่อนเถอะ”
       ปิ่นอนงค์จะกลับห้อง จอมเดินตามติด ปิ่นอนงค์หันมาหา “ตามมาทำไมหรือจอม”
       จอมเขม้นมองไปที่ประตูห้องนอน ใหญ่รีบหลบวูบ
       
       ปิ่นอนงค์เดินมาที่ประตูห้อง จอมเดินเครียดตามมา
       “โธ่จอมไม่มีอะไรหรอก เสี่ยตงเขาหนีไปแล้ว ส่งเราแค่นี้ก็พอ ขอบใจมากนะ”
       ปิ่นอนงค์เปิดประตูแง้มดูข้างใน เห็นใหญ่ยืนหน้าดุ กอดอกจ้องอยู่ไม่ยอมซ่อนตัว
       ปิ่นตกใจ ตาโตกระแอมไอกลบเกลื่อน
       “คืนนี้เราจะนอนเฝ้าปิ่นหน้าห้อง”
       ใหญ่ได้ยินเต็มหู ปิ่นอนงค์ตกใจ ใหญ่ออกท่าทางทำปากให้ไล่ตะเพิดจอมไปซะ
       ปิ่นอนงค์รีบหันมาบอกจอม “เรานอนแล้วนะ ราตรีสวัสดิ์” รีบทำหน้าปกติกับจอม
       จากนั้นปิ่นอนงค์ก็แทรกตัวเข้าประตู ดันใหญ่ให้หลีกออกจากประตู
       
       ใหญ่เดินดักหน้า ดักหลัง ดันตัวปิ่นอนงค์ไปที่เตียง ปิ่นอนงค์ตาดุใส่ใหญ่ สองคนพูดโต้เถียงกันเบาๆ
       “รีบไปก่อนที่จอมจะสงสัย”
       ใหญ่งอแงพูดตอบเบาๆ “เรื่องอะไรมาไล่ฉัน เธอก็ไปไล่ไอ้จอมมันสิ”
       “บอกกับคุณใหญ่ง่ายกว่า ปิ่นรู้นิสัยจอม”
       ใหญ่โมโหยียวนปิ่นอนงค์ “แหม รู้ใจกันจริงนะ ไม่รู้ล่ะ ถ้าจะมีใครต้องไป ต้องเป็นไอ้จอม ไม่ใช่ฉัน”
       ปิ่นอนงค์ชักโกรธ “คุณใหญ่ ทำไมชอบทำอะไรเป็นเล่นไปหมดแล้ว ปิ่นเครียดมากนะคะ”
       คราวนี้ใหญ่ทำท่ากรุ้มกริ่ม “ชั้นเป็นห่วงเธอ เมื่อกี้มันก็ขโมยกอดเธอไปทีนึงแล้ว ยอมมันไม่ได้ มันแค่ได้กอดเธอ แต่ฉันต้องได้มากกว่านั้น”
       ว่าพลางใหญ่กอดปิ่นอนงค์ซุกไซ้ไปมา ดันตัวไปนอนลงที่เตียง ปิ่นอนงค์ปกป้องขัดขืน ใหญ่ทำจุ๊ปาก
       แล้วดันปิ่นอนงค์จนหงายแหงนลงไปนอนบนเตียง ปิ่นอนงค์ทำตาดุสบตากับใหญ่ที่ทะเล้นใส่
       
       เวลาผ่านไปใหญ่หลับตาแกล้งหลับห่มผ้าถึงอก
       ปิ่นอนงค์ค่อยๆ ลุกเขยิบออกจากผ้าห่ม เดินไปหยิบผ้าห่มอีกผืนที่ปลายเท้าจะลุกเอาไปให้จอม
       ใหญ่ยกเท้าทับผ้าห่มที่ปิ่นอนงค์หยิบ ยื้อกันอยู่ ใหญ่ลุกแย่งผ้าห่มมา ห่มกึ่งกอด หันหลังให้ปิ่นคุดคู้ก้นงอน
       “มาแย่งทำไมคะ คุณใหญ่ก็มีผ้าห่มอยู่แล้ว”
       “ดึกๆ มันหนาว อยากห่มสองผืนมีปัญหาอะไรมั้ย” ใหญ่กระซิบเย้ย
       ปิ่นอนงค์โกรธขึ้นเตียงหันหลังให้ใหญ่ ก้นชนกัน ใหญ่กระดกก้นชนก้นปิ่นอนงค์อย่างชอบใจ
       แต่ปิ่นอนงค์ไม่เล่นด้วย นอนหลับตา
       
       ทางด้านจอมหลับกอดอกคอพับพิงประตูอยู่ในท่านั้น
       จู่ๆ ใหญ่ทนไม่ไหว ลุกพรวด ปิ่นอนงค์ตกใจเด้งตัวตาม
       “อะไรคะ”
       “รำคาญ ออกไปวัดดวงกับไอ้จอมเลยดีกว่า มันบังอาจทำให้เมียนอนหันหลังให้ฉัน”
       “เดี๋ยวก็พังกันหมด”
       “พังก็พัง”
       ใหญ่แกล้งคว้าปืนมา ปิ่นอนงค์แย่งมาอย่างรวดเร็ว ปืนจ่อไปทางใหญ่
       “อย่าเล่นบ้าๆ เกิดลั่นโป้งป้างมาจะทำไง”
       “อย่างมากก็เป็นม่าย นอนลงเดี๋ยวนี้”
       “นี่เธอ” ใหญ่ขัดใจ
       “บอกให้นอน”
       ใหญ่นอนตามสั่ง “หลับตา เร็ว”
       ใหญ่หลับตา ปิ่นอนงค์แอบยิ้ม เอาปืนวางหัวเตียงแล้วลงนอนกอดใหญ่หมับ ใหญ่ลืมตา
       “บอกให้หลับตา”
       ใหญ่รู้ว่าปิ่นอนงค์แกล้ง รีบหลับตา กอดก่ายปิ่นอนงค์ ยิ้มอย่างมีความสุข
       จอมตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน ทำท่าจะเคาะ แต่เกรงใจ เลยได้แต่นั่งเฝ้า
       
       วันต่อมาทัศนีย์เดินสะพายกระเป๋าออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว เฮียพ่อค้าชี้บอกให้ไปอีกทาง
       ทัศนีย์กำลังไหว้คุณยาย “แถวนี้มีห้องเช่ามั้ยคะ”
       คุณยายชี้ไปอีกทาง
       คล้อยหลังทัศนีย์เดินไป ลูกน้องครองสุขโผล่ออกมา จ้องทัศนีย์อย่างประสงค์ร้าย
       
       บริเวณห้องเช่า เซฟเฮ้าส์ที่ปานเทพกับใหญ่เอาเสี่ยตงมาซ่อนตัว
       ทัศนีย์เดินมาหยุดที่หน้าประตูอีกห้องที่ปิดอยู่ มีกระดาษปิดว่า “ให้เช่า ติดต่อเบอร์โทร”
       ด้านในห้องเช่า ปานเทพห่มผ้าให้เสี่ยตงที่นอนหลับไปแล้ว หลังจากไปรับมาจากหมู่บ้านนาข้าวของป้าทอง
       ปานเทพเปิดประตูออกมาคุยโทรศัพท์
       “คืนนี้ฉันคงต้องนอนเฝ้าเสี่ย ถึงไม่มีปัญญาหนีอีก แต่ก็กลัวแผลอักเสบตายไปซะก่อน”
       ปานเทพตัดสาย บ่นพึมพำ “คนอะไรวะ โคตรดวงแข็ง”
       ทัศนีย์ได้ยินเสียงปานเทพหันมาจ้องหน้า ต่างคนต่างตกใจ ไม่คาดฝัน
       “นายปาน นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
       ทัศนีย์มองไปที่ห้องเช่าของปานเทพ ปานเทพรีบกลบเกลื่อนกลัวทัศนีย์เห็นเสี่ยตง
       ปานเทพมองกระเป๋าเสื้อผ้าทัศนีย์ “เธอหนีออกจากไร่หรือเนี่ย”
       “ใครใช้ให้นายไม่ช่วยฉันล่ะ ฉันก็มือมีเท้า หนีเองได้”
       ปานเทพก้าวเร็วๆ ไปเข้าหาเรื่องทัศนีย์
       “ทำไมถึงคิดหนีแม่ตัวเอง คราวนี้ฉันจะรีดความจริงออกจากปากเธอให้ได้”
       ทัศนีย์หันหลังกลับจะวิ่งหนี ปานเทพคว้าไว้ทัน “ปล่อยฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรของคุณน้าจริงๆ”
       ทัศนีย์ดิ้น ปานเทพชี้ห้องที่ให้เช่า “ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะปล้ำเธอเป็นเมีย ห้องนี้ไม่มีคนอยู่ซะด้วยเหมาะกับเป็นรังรักของเรา”
       ทัศนีย์แหกปากร้องลั่น “ช่วยด้วยๆ ไอ้หมอนี่มันจะข่มขืนฉัน”
       สมุนครองสุขวิ่งมา ทัศนีย์ตกใจร้องโวยวายโบกมือห้าม
       “อ๊าย ฉันไม่ได้เรียกพวกแก ไม่ต้องมาช่วยฉัน ฉันสบายดี”
       สมุนไม่สนเดินเข้าหา ทัศนีย์กลัวมากรีบหลบหลังปานเทพ
       “ช่วยฉันด้วย คุณน้าต้องส่งพวกมันมาฆ่าฉันแน่ๆ”
       “อย่าทำอะไรผู้หญิง” ปานเทพจัดเต็ม โชว์ฮีโร่มาดแมนมาก “โดยเฉพาะผู้หญิงคนนี้ใครก็ห้ามแตะ”
       ทัศนีย์ตาโตมองปานเทพ ไม่อยากเชื่อ
       “จับมันไปทั้งสองคน”
       ปานเทพสู้กับสมุนคนหนึ่ง สมุนอีกคนเข้าไปจับ ทัศนีย์ทั้งดิ้น ทั้งตบ เตะ ข่วน สู้สุดฤทธิ์
       ปานเทพโดนชกกระเด็นไป เลือดที่มุมปากออกนิดๆ คุยฟุ้ง
       “เมื่อกี้นะแค่อุ่นเครื่อง คราวนี้เอาจริงแล้วนะโว้ย”
       ปานเทพพุ่งเข้าหาอีก คราวนี้โดนซัดเสยคางอีกหนึ่งหมัด หมุนคว้างเห็นดาว ปานเทพร่วง สลบคาที่
       ทัศนีย์ตกใจ “เฮ้ยอะไรเนี่ย นึกว่าจะช่วยกันได้ ไม่มีน้ำยาเอาซะเลย”
       สมุนสองคน เดินย่างสามขุมเข้าหา ทัศนีย์ถอยหลังกรูด
       
       ที่สุดทัศนีย์ถูกรวบตัวกลับมาที่ไร่ไพศาล
       สมุนครองสุขแค้นจัด บันดาลโทสะ ตบทัศนีย์สุดแรงเกิดจนหน้าหัน
       “แกหนีไปหาไอ้ปาน คิดเอาความลับฉันไปบอกมันหรือดีนะที่ฉันให้ไอ้สองคนนี่คอยสะกดรอยตามแก แกนี่มันน่า...”
       ครองสุขเงื้อมือจะตบซ้ำ ทัศนีย์จับข้อมือครองสุข รั้งไว้ “อย่าตบอีกนะคะ ไม่งั้นนีสู้”
       “นังลูกเนรคุณ แกอยากตกนรกหมกไหม้หรือ” ครองสุขตวาด
       “ยังไงก็ต้องไปปีนต้นงิ้วด้วยกันอยู่แล้ว จะกลัวทำไม” ทัศนีย์ย้อน
       ครองสุขตบเปรี้ยง จนทัศนีย์กระเด็นไปนั่งแบบที่พื้น ทัศนีย์กุมแก้มน้ำตาเอ่อ
       “สงสัยคนดื้อด้านอย่างแกคงใช้ไม้นวมเสียแล้ว ไอ้บุญ ไอ้มี”
       ครองสุขหันไปสั่ง ทัศนีย์กลัวหัวหดรีบคลานเข้าไปกอดขาครองสุข ออเซาะร้องไห้
       “นีไม่รู้เรื่องจริงๆ นีไปเจอไอ้ปานโดยบังเอิญ มันจะปล้ำนี ไอ้สองคนนี้มันก็เห็นว่าไอ้ปานมันฉุดกระชากลากถูนีเข้าห้อง”
       ครองสุขมองไปทางสมุน “ครับคุณนาย แต่...”
       ทัศนีย์สวนคำ “แต่อะไร แกอย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ที่ฉันต้องข่วนหน้ามัน” มองจิกที่สมุนโชคซวย “เพราะไม่อยากให้มันถูกเนื้อต้องตัวฉัน”
       ครองสุขเข้าไปกระชากกระเป๋าทัศนีย์ที่สมุนคนนั้น มาเปิดดู แล้วทิ้งลงพื้น
       “แล้วนี่อะไร แกจะหนีออกจากบ้านเหรอยัยนี อย่ามาทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาเรียกร้องความสนใจ” ครองสุขหันมาทางสองสมุน บุญกะมี “ต่อไปนี้แกสองคนคอยเป็นบอดี้การ์ดให้คุณนี อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด”
       ครองสุขสะบัดตัวหนีไป
       สมุนบุญกับสมุนมี ยืนกอดอกมองทัศนีย์เขม็ง ทัศนีย์กลืนน้ำลายหวาดเสียวที่รอดไปได้อีกครั้ง
       
       เวลาเดียวกัน ปิ่นอนงค์แอบดูอยู่อีกมุมหนึ่ง หน้าตาตื่น ทั้งตกใจและสงสารทัศนีย์
--------------------------------------------------------------------------------------

 ที่เพิงหมาแหงนมุมลับตาคน ใหญ่นั่งพิงเสาสายตาเพ่งมองไปที่ฝูงแพะเบื้อหน้า ส่วนปิ่นอนงค์ยืนอยู่อีกมุมหน้าเครียดจัด
       
       “คุณปานโดนพวกคุณนายทำร้ายค่ะ คุณใหญ่ต้องไปตามหาตัวนะคะ ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง”
       ใหญ่หน้าตาบึ้งตึง ยังเคืองปิ่นเรื่องจอมกับทรรศนะอยู่
       “เรื่องไอ้ปานฉันรู้แล้ว ตอนนี้มันอยู่ที่ฟาร์ม ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่คางเหลืองนิดหน่อย ส่วนเธอรีบกลับไปได้แล้ว” ใหญ่ลอยหน้าลอยตาพูด “เดี๋ยวไอ้จอมมันจะคิดถึง จนตามมาเจอฉันเข้า”
       ปิ่นอนงค์โกรธเม้มปากเดินกลับ แต่แล้วกลับหน้ามืดเป็นลม พับเพียบลงกับพื้น
       “ปิ่น ปิ่นอนงค์”
       ใหญ่กระโจนพรวดเดียวออกจากเพิงเข้าไปประคอง ปิ่นอนงค์ลุกไม่ไหว
       ใหญ่อุ้มปิ่นอนงค์มานั่งที่กระท่อม ปิ่นอนงค์สูดลมหายใจลึกๆ
       ใหญ่ประชด ท่าทางกวนประสาท “ก็อย่างนี้แหละ วันๆ ต้องไปดูแลผู้ชายคนโน้นที ปลอบใจผู้ชายคนนี้ที จนไม่มีเวลาพักผ่อน ร่างกายมันเลยไม่ไหว เพลาๆ ลงซะบ้างสิ ชอบคนไหน ก็เลือกเอาสักคน”
       ปิ่นอนงค์นิ่งน้ำตาไหล แล้วเบะปากร้องไห้ตัวโยน ปิ่นอนงค์เข้าไปกอดรอบคอใหญ่ ด้วยสองแขน
       ใหญ่อึ้งไปที่ปิ่นอนงค์กล้าแสดงออกก่อน ใหญ่กอดรอบเอว ปิ่นอนงค์ร้องไห้ซบหน้าอยู่กับไหล่ของใหญ่ ปิ่นอนงค์พูดโดยยังไม่ผละจากใหญ่
       “ทำไมเราต้องหาเรื่องทะเลาะกันด้วย ทำไม เราไม่รักกันมากๆ เพราะเราจะต้องพรากจากกันวันไหนก็ไม่รู้”
       ใหญ่ฟังแล้วเครียด ดันตัวปิ่นอนงค์มาให้มองหน้า ใหญ่ดุ “พูดไม่เป็นมงคล อยากโดนตบด้วยปากหรือไง”
       ใหญ่หมายจะจูบ ปิ่นอนงค์เบือนหน้าหนี ดันคางใหญ่ไว้ “ปิ่นอยากพูดเอาไว้ก่อน อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้เพราะคุณนายเป็นคนใจร้าย จิตใจโหดเหี้ยม แม้กระทั่งลูกตัวเอง ก็ยังไม่เว้น”
       ใหญ่มองสบตา แววตาอ่อนโยน “เธอกลัวเหรอปิ่น ถ้าอย่างนั้นชั้นจะหยุดเรื่องนี้เดี๋ยวนี้ ชั้นจะมอบตัวกับตำรวจทุกคดี ถ้าแพ้ความ อย่างมากก็ติดคุก ชั้นไม่กลัวหรอก”
       ปิ่นอนงค์ประคองหน้าใหญ่ด้วยสองมือ “ไม่ค่ะ ปิ่นไม่ได้อยากให้คุณใหญ่ยอมแพ้ ถ้าเราแพ้ คุณนายก็จะทำร้ายคนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุด ขอเวลาปิ่นอีกนิด ปิ่นต้องหาพินัยกรรมให้เจอ”
       สองคนสบตากันอย่างซาบซึ้ง สวมกอดกันแน่น
       
       เย็นนั้น ปิ่นอนงค์ถือถังน้ำกับไม้ถูพื้นเดินผ่านมา นทรรศะเปิดประตูออกมา สองคนสบตากัน
       “ปิ่นหายโกรธพี่รึยัง ปิ่นต้องเข้าใจพี่บ้าง พี่ทำทุกอย่างลงไปเพราะพี่รักปิ่น พี่กลัวเสียปิ่นให้ไอ้จอม”
       ปิ่นอนงค์ยิ้มน้อยๆ พูดให้ทรรศนะรีบไปๆ ซะ
       “ปิ่นให้อภัยคุณนะค่ะ พอลองคิดไปคิดมา ทบทวนอยู่หลายรอบ คนที่ทำให้คุณนะเจ็บตัวก็คือปิ่นเอง ปิ่นควรจะดีใจที่คุณนะไม่ได้เป็นอะไรมาก”
       ทรรศนะยิ้มดีใจ เข้าไปจับแขนปิ่นอนงค์ แล้วรู้สึกตัวรีบปล่อย
       “ปิ่นเข้าใจพี่แล้ว ไม่โกรธพี่แล้วจริงๆ นะปิ่น”
       “โธ่...เรารู้จักกันมาตั้งนาน ปิ่นโกรธคุณนะไม่ลงหรอกค่ะปิ่นขอไปทำงานก่อนนะคะ ไม่เสร็จเดี๋ยวโดนดุ”
       ทรรศนะมองถังน้ำที่พื้น “ปิ่นจะทำความสะอาดห้องไหน พี่ช่วยยกไปให้”
       ทรรศนะเอื้อมมือไป ปิ่นอนงค์รีบห้าม “อุ๊ย อย่าๆ เลยค่ะ คุณนะทำแบบนี้ คุณนายมาเห็นจะงานเข้าปิ่นนะคะ”
       ทรรศนะคล้อยตาม “จริงด้วย ก็ได้ๆ พี่ต้องออกไปทำธุระก่อน กลับมาค่อยคุยกันใหม่นะ ขอบใจนะปิ่นที่ให้อภัยพี่”
       ปิ่นอนงค์ยิ้มให้ ทรรศนะร่าเริงออกไป บ๊ายบายกับปิ่นอนงค์
       ปิ่นอนงค์โล่งอกที่ทรรศนะยอมไป หญิงสาวร้อนรนรีบหิ้วถังน้ำไปยังจุดเป้าหมาย...ห้องเก็บของ
       
       ปิ่นอนงค์นั่งรื้อดูเอกสาร หนังสือหน้าเครียด ยกกล่องเก็บที่ชั้น จังหวะที่ปิ่นอนงค์ชักมือกลับ ศอกไปโดนด้ามไม้ถูพื้นล้มตีพื้น ปัง
       ปิ่นอนงค์ปิดปาก ตาค้าง
       ครองสุข เดินอยู่แถวหน้าห้อง ตกใจ หรี่ตา รีบไปหน้าห้องเก็บของ ตะโกนถาม
       “ใครอยู่ในห้อง”
       ทัศนีย์แง้มประตูแอบมองอยู่
       ปิ่นอนงค์รีบเอาไม้ม็อบถูพื้น กับถังน้ำแอบตามมุม หน้าตื่นตกใจ หมอบลงพนมมือตัวสั่น
       “ชั้นถามว่าใคร อยู่ในห้องเก็บของ”
       
       ครองสุขค่อยๆ เปิดประตูห้องเก็บของ เปิดกว้างออกช้าๆ
       ทัศนีย์โผล่มาด้านหลังครองสุข เข้ามากอดครองสุขหันไปอีกทาง
       “อย่าค่ะคุณน้านีกลัว อย่าเข้าไป ผีๆๆ กรี๊ดๆ”
       ปิ่นอนงค์หน้าเหลอหลา รีบวิ่งหนีไปไหล่เฉียดหลังครองสุข
       ครองสุขสะบัดทัศนีย์ด้วยความฉุนเฉียว
       “ปล่อยๆ ชั้น ยัยนี มากอดฉันไว้ทำไมเล่า ปล่อย”
       ครองสุขผลักทัศนีย์ ออกหันขวับตามปิ่นอนงค์ไป ไม่มีใครแล้ว
       ครองสุขเงื้อมือตบ ทัศนีย์รู้ทันไวมากก้มหลบ จนครองสุขเซไปปะทะผนังห้อง
       “นีไม่ได้ทำอะไรคุณน้าเลยนะคะ คุณน้าทำตัวคุณน้าเองต่างหาก”
       ทัศนีย์สะบัดหน้าไป สมุนสองคนที่ตามเฝ้าทัศนีย์วิ่งมาหน้าตาตื่น โดนครองสุขตวาด
       “ฉันสั่งให้แกจับตาดูมันไว้ไม่ใช่หรือ รีบไปตามคนอื่นๆ มามีคนร้ายแอบซ่อนตัวอยู่ในเรือนนี้ ค้นให้ทั่วทุกซอกทุกมุม”
       
       ในเวลาต่อมา พวกสมุน 7-8 คน ถือปืนไฟฉายวิ่งเข้าในเรือนวุ่นวาย ไฟตามห้องต่างๆ เปิดสว่าง ทีละห้องๆ
       ส่วนปิ่นอนงค์นั่งพับเพียบไหว้พระอธิษฐานจิต อยู่ในห้องพระ
       “ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองปิ่น อย่าให้ถูกจับได้ ถ้าความดีต้องชนะความชั่วอย่างที่พระพุทธองค์เคยสอนไว้ ขอให้ปิ่นรอดพ้นจากภัยครั้งนี้” ปิ่นอนงค์อัดอั้นจนสะอื้นออกมา “หรือถ้าต้องตาย ก็ขอให้ปิ่นได้เห็นหน้าคุณใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายก่อน”
       ปิ่นอนงค์ก้มลงกราบสามครั้ง เงยหน้ามององค์พระประธาน ไล่สายตาลงมา แล้วสะดุดตากับบางสิ่ง
       
       ปิ่นอนงค์เพ่งสายตามอง เห็นไม้เท้าไพศาลวางอยู่บนหิ้งพระ
-----------------------------------------------------------------------------


 เจิด ก้าน และลูกน้องสองคนเดินสำรวจกันหน้าเครียด เปิดตามห้องมองดู ไล่เรียงมา บางห้องมืดมิดลูกน้องฉายไฟส่องมองหากันอย่างขันแข็ง
       
       สมุนคนหนึ่งมาหยุดยืนที่หน้าห้องพระ ขยับลูกบิด เปิดประตูเข้าไป
       ปิ่นอนงค์ยืนกอดไม้เท้าอยู่ลุ้นระทึก บานประตูถูกเปิดมาบังตัวปิ่นอนงค์ไว้พอดี
       สมุนอีกคนฉายไฟ ส่องไปมา ก้าวเดินเข้ามาในห้องพระช้าๆ ส่องไฟไล่ไปเรื่อย
       
       ระหว่างนั้นใหญ่ กับปานเทพ ซึ่งใช้ผ้าขาวม้าโพกหัว กำลังเริ่มแผนสร้างความวุ่นวาย บนพื้นข้างสองหนุ่ม มีทั้งประทัด ลูกหนู ตะไล พลุ วางเรียงเป็นตับ
       ใหญ่ กับปานเทพ ถือธูปติดไฟ จ่อจุดทุกชนวน ไฟติดดังฟู่...ลามลุกไปตามเชื้อชนวนอย่างรวดเร็ว
       
       สมุนคนนั้นหันกลับไปมองบานประตูห้องพระ ที่บังปิ่นอนงค์อยู่ ฉายไฟส่องพลางเอียงคอมองหา
       จู่ๆ มีเสียงดังปึงปัง วี๊ด...ตู้ม สมุนคนนั้นชะงัก หันไปมองแสงพลุ ตะไล ลูกหนู ที่วิ่งวุ่นไร้ทิศทางด้านนอกหน้าต่าง
       สมุนอีก 2 คน วิ่งผ่านประตูไป สมุนคนนั้นเผ่นตาม ปิ่นอนงค์โล่ง ค่อยๆ แง้มประตูก้าวออกมา เสียบไม้เท้าเข้าคอเสื้อด้านหลังดันลงไปเหน็บกับขอบกางเกง พุ่งไปสอดส่องหน้าประตู เห็นว่าปลอดคน รีบวิ่งออกจากห้องพระไปทันที
       
       ภาพเศษประทัดกระจายอยู่บนพื้น พลุเสียบฐานบนพื้น กงตะไล ถูกโยนบนพื้น ทุกคนเครียด มองจ้องหลักฐาน จอมตรงรี่เข้ามาที่หลังเรือน
       “เกิดอะไรขึ้น แล้วนี่ใครจุดเล่น”
       หมู่มวลคนงานส่ายหน้า “สงสัยเด็กมือบอนมันจุดเล่น”
       จอมมองหน้าสมุนเป็นเชิงถามว่ามันเรื่องอะไรกัน
       
       ตรงทางเดินบนชั้นสอง ทัศนีย์มองหาปิ่นอนงค์ ร้องเรียกเบาๆ
       “ปิ่น เธอหลบอยู่แถวนี้หรือเปล่า”
       ทัศนีย์แง้มประตูห้องหนึ่ง แต่ตกใจแทบช็อก มีคนกระชากแขนให้หันกลับมาด้านหลัง
       ทัศนีย์หันมาเจอหน้าครองสุขเต็มๆ หน้าตาบิดเบี้ยวร้ายกาจ น่ากลัวมาก
       
       ทัศนีย์นั่งที่พื้นกลัวจนตัวสั่น ครองสุขหน้าเฉยนิ่ง นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าข่มขู่หนัก
       “แกร่วมมือกับคนร้าย ตั้งใจช่วยให้มันหนี มันเป็นใครทัศนีย์ แกรู้อะไรบ้างบอกชั้นมาให้หมด”
       ครองสุขหยิบมีดโกนแบบมีด้ามโบราณออกมาง้างช้าๆ ทัศนีย์เอาหมอนมากอด
       ทัศนีย์สยองสุดๆ ถดตัวหนี ครองสุขพูดเสียงเย็นเยียบ “อย่าหาว่าแม่ใจร้ายนะลูก”
       ครองสุขดึงหมอนจากทัศนีย์ เอามีดโกนกรีดขวับๆ เป็นแนวๆ
       “ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ใจร้ายหรอก มีดคมๆ ไม่เจ็บมากมายอะไรมันจะปวดหนึบๆ เลือดก็ค่อยๆไหลออกมา แต่อย่าแหวกแผลเชียวนะลูก”
       ว่าพลางครองสุขขยุ้มหมอนยื่นใส่หน้าทัศนีย์ อย่างรวดเร็ว
       ทัศนีย์กรี๊ดสะดุ้งสุดตัว “บอก บอกแล้วจ้ะ คุณน้าต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ฆ่าใครอีกมันบาป แค้นอาฆาตกันไม่มีวันหยุด”
       “ชั้นก็อยากมีชีวิตที่สงบสุขเหมือนกัน ชั้นรับปากจะไม่ทำร้ายแก ไม่ทำร้ายใครอีกแล้ว ที่ถามแกเพราะชั้นอยากรู้จะได้หาทางหนีที่ไล่ได้ถูก ชั้นก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้เยอะ อยากจะจบดีๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง” ครองสุขล่อหลอก
       “คุณน้าพูดจริงหรือคะ” ทัศนีย์หลงเชื่อ
       “ฉันให้ตานะแอบถ่ายเทเงินมาจากเสี่ยตง ก็ได้หลายอยู่ คงพอให้เราหลบหนีไปอยู่ที่อื่น โดยตำรวจตามไม่เจอ”
       สองแม่ลูกสบตากัน ทัศนีย์โพล่งออกมา
       “คุณใหญ่ คุณใหญ่ยังไม่ตาย”
       ครองสุขตาค้าง มีดในมือสั่นระริก
       
       ปิ่นอนงค์วิ่งหวาดระแวงเข้ามาที่เรือนคนงาน ชนกับหวาน ต่างคนต่างตกใจ หวานหน้าตื่นกังวลหนัก
       “ปิ่น แกเจอคุณใหญ่กับคุณปานรึยัง”
       “คุณใหญ่มาที่นี่เหรอพี่หวาน”
       “ใช่น่ะสิ มาตั้งนานแล้ว พอไม่เจอแกก็รีบออกไป ตามหา”
       ปิ่นอนงค์รู้สึกกังวลใจ
       
       ปิ่นอนงค์เข้าห้อง ใหญ่ใช้ผ้าขาวม้าคล้องที่คอโผล่เข้ามาพอดี สองตรงเข้าจับมือกัน ปิ่นอนงค์จ๋อยๆ หน้าซีดเผือด
       “ปิ่น เกือบโดนจับได้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ใครจุดพลุ จุดประทัด ช่วงชุลมุน ปิ่นเลยหนีมาได้”
       ใหญ่รีบบอก “ฝีมือชั้นเอง มาหาเธอที่นี่ไม่เจอ เลยลองไปตามที่เรือนใหญ่เห็นไฟสว่าง คนวิ่งกันวุ่นวาย คิดว่าเกิดเรื่องแน่”
       “แล้วพวกพลุ...” ปิ่นอนงค์งง
       “ลูกคนงาน ซื้อมาจะจุดวันเกิด เลยแย่งมา”
       ปิ่นอนงค์เอื้อมมือหยิบไม้เท้าออกมาใหญ่ตะลึงมอง
       ปิ่นอนงค์ส่งให้ ใหญ่มองแล้วลูบไล้ไปมา “ไม้เท้าของพ่อชั้น”
       “ปิ่นเจอในห้องพระ คิดว่าคุณใหญ่คงอยากจะเก็บเอาไว้”
       ระหว่างนั้นเสียงครองสุข ดังขึ้น “ล้อมเอาไว้อย่าให้หนีไปได้ มันต้องอยู่ทีนี่แหละ”
       ปิ่นอนงค์กับใหญ่พุ่งไปแอบดูข้างล่าง เห็นครองสุขจอม และคนงานกว่า 10 คน พร้อมสมุนอีก 10 ในในมือถือปืน ถือไฟฉาย ล้อมอยู่หน้าเรือนคนงาน
       ปิ่นอนงค์กับใหญ่ ตกใจหันไปสบตากัน
       
       ใหญ่จูงปิ่นอนงค์ท่าทีร้อนรนมาที่หน้าต่าง
       
       “ไม่ต้องกลัวนะ ชั้นจะลงไปรอรับเธอ”
       “คุณใหญ่หนีไปเถอะค่ะ ปิ่นจะหาทางถ่วงเวลาไว้เอง เอาไม้เท้าของคุณไพศาลไปด้วยนะคะ”
       ปิ่นอนงค์ยื่นให้ ใหญ่ไม่รับ “เธอนั่นแหละไปกับฉัน ถ้าไม่ไป ฉันจะออกไปลุยกับพวกมันให้ตายกันไปข้างหนึ่ง หรือจะเอาอย่างนั้น”
       เจอไม้นี้ ปิ่นอนงค์หมดทางปฏิเสธ
       
       ใหญ่ลงมารอรับปิ่นอนงค์ ที่ถือไม้เท้ามาด้วย จนลงมาได้แล้ว น้อย กะหวาน วิ่งเข้ามาสมทบหน้าตื่น
       “คุณใหญ่ ทำยังไงกันดีคะ นังคุณนายมันรู้เรื่องหมดแล้ว”
       “หนีสิ ถามได้”
       ใหญ่จูงมือปิ่นอนงค์เตรียมจะเผ่น จู่ๆ ไฟฉายหลายดวงจับจ้องมาที่กลุ่มปิ่นอนงค์กับใหญ่ เล็งปืนไปที่ใหญ่กับปิ่นอนงค์เป็นจุดเดียว
       ครองสุขเดินออกมา สบตาใหญ่ ครองสุขอึ้ง
       “ผีคุณใหญ่หรือ ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่แรก ว่าแกมันเจ้าเล่ห์ขนาดไหน”
       ใหญ่ยิ้มเย้ยกวนประสาท “คนโง่ย่อมถูกจูงจมูกโดยคนฉลาดเสมอ แต่ตอนนี้ฉันหมดสนุกที่จะเดินจูงจมูกคุณนายเสียแล้ว มันขี้เกียจ”
       “เห็นหรือยังจอม ว่ามันเห็นแกกับฉันโง่เหมือนวัวเหมือนควาย โดยเฉพาะนังปิ่น แกทำกับคนที่รักแกได้แสบสันต์ดีเหลือเกินนะ”
       
       ครองสุขยุ จอมมองจ้องหน้าปิ่นอนงค์เขม็ง 
--------------------------------------------------------------------------------

โปรดติดตาม "ปิ่นอนงค์" ตอนที่ 21

No comments:

Post a Comment